ทนายตั้ม ซัดแหลก ส.ส.เต้ ยันไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เตือนระวังเสียหมา เราเป็นใครต้องมีวุฒิภาวะ ระบุ เรื่องนี้ทำคนสับสน ให้ผู้ใหญ่จัดการดีกว่า

จากกรณี นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ อ้างว่าโทรศัพท์มาพูดคุยกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม หลังโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่านายมงคลกิตต์ให้ไลน์ส่วนตัวกับบังแจ็ค ที่อ้างว่ามีผ้าคลุมสีขาวของแตงโม นิดา ที่ยังหาไม่พบ ซึ่งทนายตั้มไม่อยากคุยให้เสียเวลา เพราะบังแจ็คสร้างเรื่องหลอกลวง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : มันไม่คูล! ทนายตั้ม ซัด ส.ส.เต้ โกหกออกสื่อ แจงปมโทร ลั่น “ผมไม่โง่นะ”

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 เม.ย.2565 ที่ sittra law firm นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เปิดเผยว่า นายมงคลกิตต์โทรศัพท์มาให้ตนติดต่อกับบังแจ็ค ซึ่งบังแจ็คพยายามติดต่อเข้ามาผ่านอินสตาแกรม เพจเฟซบุ๊ก จนทักเรื่องไร้สาระมาทางไลน์ ตนก็ไม่ตอบ ก็รู้สึกกังวลว่านายมงคลกิตต์ จะโดนบังแจ็คหลอก เพราะเขาเคยหลอกเรื่องแจกรถบ้างอะไรบ้างซึ่งไม่เป็นเรื่องจริง

นายษิทรา กล่าวต่อว่า จึงเตือนนายมงคลกิตต์ไปว่าระวังจะเสียหมา พอถึงตอนเช้าเขาก็โทรมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงข่ม ๆ บอกว่า “เฮ้ยน้อง โพสต์ว่าพี่ได้ไง” ตนก็โมโหเพราะไม่ได้สนิทอะไรกัน ทำไมมาใช้น้ำเสียงแบบนี้ ก็ตอบกลับนายมงคลกิตต์ว่า เราเป็นใคร ต้องมีวุฒิภาวะหน่อย แต่คุยกันไม่นานเพราะตนติดธุระ

ทนายตั้ม ซัดแหลก ส.ส.เต้ ยันไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เตือนระวังเสียหมา เราเป็นใครต้องมีวุฒิภาวะ

ทนายตั้ม ซัดแหลก ส.ส.เต้ ยันไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เตือนระวังเสียหมา เราเป็นใครต้องมีวุฒิภาวะ

นายษิทรา กล่าวอีกว่า พอทราบข่าวที่นายมงคลกิตต์ให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่องที่พูดถึงตนนั้น ฟังเหมือนเป็นการหาเสียง เอาดีเข้าตัว เพราะไม่ใช่เรื่องที่พูดกับตนเลย จึงโพสต์เฟซบุ๊กกลับไปว่าอย่าบิดเบือนเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง เพราะนายมงคลกิตต์ขอให้เราแชร์เรื่องของเขาให้ เพราะเราพวกเดียวกัน เดี๋ยวจะถูกดำเนินคดี

นายษิทรา กล่าวว่า ตนก็สงสัยว่าแล้วเราเป็นพวกกันเมื่อไหร่ จะถูกดำเนินคดีอะไร ในเมื่อตนไม่ได้เอาหลักฐานเท็จอะไรมาลงระบบคอมพิวเตอร์ ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับนายมงคลกิตต์เป็นการส่วนตัวมาก่อน เพียงแต่เคยเจอในรายการหนึ่งเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน ก็ไม่ได้คุยกัน แล้วก็แยกย้ายกันไป ไม่ทราบว่าเขามีเบอร์อยู่แล้วหรือไม่ หรือประสานใครเข้ามา

เมื่อถามว่าจะสามารถยื่นตรวจสอบจริยธรรมนายมงคลกิตต์ได้หรือไม่ เพราะสิ่งที่เขาทำอาจเป็นการเบี่ยงประเด็นให้สังคมเข้าใจผิด นายษิทรา กล่าวว่า เรื่องนี้ทำให้สังคมสับสน แต่ให้ผู้ใหญ่จัดการดีกว่า หากมีความผิดเรื่องการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ส.ส. รวมถึงการยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และมีหลักฐานเท็จเข้ามาอีก ตนคงไม่ไปยุ่งอะไรกับเขา

ถามต่อว่า กรณีของนายมงคลกิตต์คาดว่า นายสิระ เจนจาคะ จะดำเนินคดีหรือเดินเรื่องตรวจสอบหรือไม่ นายษิทรา ตอบไม่ทราบว่าเขาจะดำเนินการหรือไม่ แต่ก็สามารถทำได้เพราะเป็นการกล่าวโทษ คดีอาญาสามารถทำได้

นายษิทรา กล่าวถึงคดีแตงโม นิดา หลังบุคคลที่คาดว่าเป็นผู้บงการเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับตำรวจ ว่า ไม่อยากให้สังคมไปสนใจเรื่องผู้บงการ เหมือนกับว่าตำรวจต้องการหาแพะมาเบี่ยงเบนสังคมจากการที่ทำสำนวนไม่รัดกุมตั้งแต่แรก ซึ่งบุคคลที่จะถูกดำเนินคดีนั้น ก็ได้คุยกับคนบนเรือสปีดโบ๊ตจริง คงไม่ได้ให้การเท็จ แต่ตำรวจดำเนินคดีไว้ก่อน อัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่คงอยู่ที่ดุลยพินิจอีกครั้ง แต่ถึงเวลานั้นสังคมลืมไปแล้ว

นายษิทรา กล่าวว่า อยากให้มาโฟกัสที่เรื่องการดำเนินคดีคนบนเรือทั้งหมดจะดีกว่า เพราะแต่แรกทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ซึ่งสนิทกับตำรวจ ออกมาพูดว่ากุนซือเป็นนักกฎหมาย มีความรู้ทางกฎหมายอย่างดี จนสังคมพุ่งเป้ามาที่ตน ตอนหลังทนายเดชามาบอกว่าเป็นเจ้าของร้านอาหาร แสดงว่าที่ตำรวจบอกว่าเป็นนักกฎหมายก็เป็นการสร้างกระแส

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล นำเบอร์โทรศัพท์วีไอพีไปมอบตำรวจ นายษิทรา กล่าวว่า ตอนไปให้การกับตำรวจแต่แรกก็ทราบว่าตำรวจมีเบอร์โทรศัพท์นี้อยู่แล้ว และได้เรียกสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่ว่าจากการที่ตนพูดคุยกับกลุ่มคนบนเรือ ไม่มีใครพูดถึงเรื่องคนมีสี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน