ทนายตั้ม ยื่นหนังสือถึง ผบช.น. ขอให้ตรวจสอบกรณีตำรวจยศ พล.ต.ต. นายหนึ่ง พยายามแทรกแซง คดีปริญญ์ อดีตรองหัวหน้า ปชป. ลวงสาวข่มขืนกระทำอนาจาร

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 เม.ย.2565 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีตำรวจยศ พล.ต.ต. พยายามแทรกแซง คดีปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลวงสาวข่มขืนกระทำอนาจาร หลังจากมีเหยื่อ 15 ราย เดินทางเข้ามาแจ้งความ

นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในประเด็นที่มีตำรวจยศ “พลตำรวจตรี” อาจจะมีการแทรกแซงและชักจูงผู้เสียหาย โดยจะขอให้ทาง ผบช.น. ได้มีการตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของแม่เหยื่อ ว่าคุยอะไรกับตำรวจนายนี้ในช่วงเกิดเหตุ แล้วก็ให้ตรวจสอบว่าได้มีการต่อสายไปถึงคนในพรรคการเมืองใดหรือไม่ จากข้อมูลที่ได้มา พลตำรวจตรีเป็นตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว เคยเป็นอดีตผู้การจังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออก

ทนายตั้ม ยื่นหนังสือถึง ผบช.น. ขอให้ตรวจสอบกรณีตำรวจยศ พล.ต.ต. นายหนึ่ง พยายามแทรกแซง คดีปริญญ์

ทนายตั้ม ยื่นหนังสือถึง ผบช.น. ขอให้ตรวจสอบกรณีตำรวจยศ พล.ต.ต. นายหนึ่ง พยายามแทรกแซง คดีปริญญ์

นายษิทรา กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้ตนมีข้อสงสัยว่าพลตำรวจตรีนายนี้ มีส่วนเข้ามาแทรกแซงคดี เนื่องจากช่วงวันที่ 13 เม.ย.2565 ตนได้พูดคุยกับทางครอบครัวของเหยื่อ เขาก็บอกว่าจะต้องปรึกษากับพลตำรวจตรีนายนี้อยู่ตลอดเวลา และช่วงหลัง ๆ เวลาที่ตนแนะนำอะไรไป ก็ได้รับคำตอบว่า “เดี๋ยวขอปรึกษาพลตำรวจตรีก่อน” ซึ่งก็ไม่ได้ทำตามที่ตนแนะนำไป ส่วนความสัมพันธ์เขาบอกว่าเป็น “ลุง” แต่ตนคิดว่าคงนับถือไม่ใช่ญาติแท้ ๆ

นายษิทรา กล่าวอีกว่า โดยตนก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากเหยื่อตั้งแต่วันที่ได้มีการขอให้คัดค้านการประกันตัว “ปริญญ์” ที่ศาล ตนอยากให้ตำรวจมีการสืบสวนสอบสวนว่า พลตำรวจตรี มีการข่มขู่บังคับหรือว่าจูงใจพยาน หรือได้แนะนำอะไร ที่ทำให้เป็นผลเสียต่อรูปคดีหรือไม่ แม้ว่าตอนนี้ทางเหยื่อจะยังไม่กลับคำให้การหรือถอนแจ้งความ แต่หากไปถึงชั้นอัยการอาจมีการขอให้สอบเพิ่มเติม จนนำไปสู่ ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อคดี

 

ทนายตั้ม กล่าวว่า ยืนยันว่าเหยื่อ 15 รายที่เข้าแจ้งความตำรวจก่อนหน้านี้ ยังเป็นพยานที่มีน้ำหนัก แต่ตนกังวลว่า ผู้เสียหายที่ติดต่อเข้ามาหลังจากนี้ อาจมีการแฝงตัวเพื่อโยงเกมการเมือง จึงต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนเข้าช่วยเหลือ

ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า ตนไม่กังวลเรื่องการถูกฟ้องกลับ เนื่องจากที่ผ่านมาในการให้ข่าวไม่ได้มีการพูดพาดพิงถึงชื่อหรือพรรคการเมืองใด สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของคนใดคนหนึ่ง รวมถึงมองว่าเป็นภัยสังคมที่ตนต้องเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อป้องกันการมีเหยื่อเพิ่มมากขึ้น

สำหรับผู้เสียหายรายใหม่ที่เคยมีข่าวถูกล่วงละเมิดที่ประเทศอังกฤษ ขณะนี้ได้เข้ามาเป็นผู้เสียหายเพิ่มเติมรายที่ 16 ซึ่งตนได้ประสานคนที่สามารถช่วยดำเนินคดีให้เหยื่อรายนี้ที่ประเทศอังกฤษแล้ว หากสามารถรวบรวมหลักฐานในวันเกิดเหตุได้ครบ เช่น เสื้อผ้า และกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที เนื่องจากสภาพจิตใจของผู้เสียหายดีขึ้นมากแล้ว

จากข้อมูล ผู้เสียหายรายที่ 16 พบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 10 ปีที่แล้ว ขณะที่ผู้เสียหายอายุ 25 ปี และกำลังศึกษาต่ออยู่ชั้นปริญญาโท ที่ประเทศอังกฤษ ได้เจอกับนักการเมืองคนดังกล่าว ที่ขณะนั้นทำงานให้ธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ ก่อนจะมีการพูดคุยกับเหยื่อ โดยอ้างว่าสามารถพาเข้าทำงานได้ในธนาคารดังกล่าว หลังจากนั้นได้ล่อลวงไปที่อพาร์ตเมนต์ของผู้ก่อเหตุ และลงมือข่มขืน ซึ่งหลังเกิดเหตุทางผู้เสียหายได้ดำเนินคดีที่ประเทศอังกฤษทันที ขณะนี้คดียังไม่ถูกตัดสิน แต่ก็มีหญิงไทยที่ทำงานในสถานทูต ติดต่อไปยังผู้เสียหาย ขอให้อย่าดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ทำให้สภาพจิตใจของผู้เสียหายย่ำแย่

อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีของตำรวจตนไม่มีความกังวล เพราะพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนหากผู้เสียหายจะแถลงต่อศาลไม่เอาโทษ ตนก็ไม่กังวลเนื่องจากคดีนี้เป็นอาญาแผ่นดินไม่สามารถยอมความได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน