เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 ม.ค. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร เดินทางมาสอบปากคำนายชิเกฮารุ ชิราอิ อายุ 72 ปี สัญชาติญี่ปุ่น หัวหน้าแก๊ง“ยามากูจิ กูมิ”แก๊งยากูซ่าประเทศญี่ปุ่น ที่หลบหนีคดีฆ่านายคาซิฮึโกะ โอโตเบะ รองหัวหน้าแก๊ง“คามิยะ”แก๊งคู่อริ และหลบหนีมายังประเทศไทย
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า นายชิราอิ ให้การรับสารภาพว่าเป็นหัวหน้าแก๊งยากากูจิ กูมิ มีสมาชิก 23,400 คน เป็นแก๊งยากูซ่าในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังแยกออกมาเป็นกลุ่มย่อยชื่อว่ากลุ่ม“โคโดไก” มีสมาชิกประมาณ 2,000 คน ส่วนใหญ่ทำธุรกิจเถื่อน ผิดกฎหมาย เปิดบ่อนพนันทุกชนิด โต๊ะเถื่อนทุกชนิด โดยเมื่อหาเงินได้แล้วจะนำไปให้กับหัวหน้ากลุ่มใหญ่คือนายฮาราอิ ทำต่อกันเป็นทอดๆ โดย เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2548 นายชิราอิ ได้ลงมือฆ่านายคาซิฮิโกะ โอโตเบะรองหัวหน้ากลุ่ม“คามิยะ” ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของนายฮาราอิ เช่นกัน ซึ่งนายโอโตเบะ ได้ทำผิดกฎของยากูซ่า จึงมีการสั่งฆ่า และหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2548 โดยเบื้องต้น นายชิเกฮารุ ยังไม่ยอมรับว่าเป็นคนฆ่า แต่ให้การว่าผู้ตายเคยข่มเหงรังแกตน และมีกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในแก๊งคามิยะ ประชุมกันอยู่หลายครั้ง อาจเป็นการประชุมวางแผนลงมือฆ่านายโอโตเบะก็ได้
“ตามพยานหลักฐานของทางญี่ปุ่น บ่งบอกชัดเจนว่านายชิราอิ เป็นหัวหน้ากระบวนการสั่งฆ่านายโอโตเบะ โดยมีผู้ร่วมกระบวนการอีก 7 คน รวมเป็น 8 คน ขณะนี้ทั้ง 7 คนถูกจับกุมแล้ว และถูกศาลประเทศญี่ปุ่นพิพากษาจำคุก 12-17 ปี จากการตรวจสอบลักษณะร่างกาย มีรอยสักเต็มตัว โดยนายชิราอิ ให้การว่า การสักเต็มตัวของแก๊งยากูซ่า มีความหมายเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความอดทน การสักเป็นลักษณะการสักแบบใช้สีและใช้เข็ม ต้องมีความอดทนต่อความเจ็บปวดขณะสัก ถ้าใครไม่ผ่านการสักถือว่ายังไม่ผ่านการทดสอบจิตใจ ไม่สามารถเป็นสมาชิกแก๊งยากูซ่าได้ และนิ้วก้อยซ้าย หายไป 2 ข้อ เนื่องจากหัวหน้าทำผิดกฎของยากูซ่า จึงรับผิดแทนหัวหน้าโดยการตัดนิ้ว หากตัดนิ้วข้อเดียวเป็นการไม่แสดงออกถึงความจริงใจ จึงต้องตัด 2 ข้อ โดยใช้สิ่วและค้อนทุบ แล้วนำนิ้วไปให้หัวหน้าใหญ่ดู”
“จากการสอบถามนายชิเรอิ ทราบว่ามีภรรยาเป็นคนไทย คือนางอริสรา เมื่อต้องคดีที่ญี่ปุ่น จึงได้หลบหนีมายังประเทศไทย มาอาศัยในจังหวัดลพบุรี ทำอาชีพทาสีบ้าน แบกข้าวสาร ภายหลังมีปากเสียงกับภรรยาเป็นประจำ จึงเลิกลากันไป ปัจจุบันใช้ชีวิตเพียงลำพัง พยายามทำตัวเป็นจุดสนใจน้อยที่สุด เพราะเกรงว่าความลับจะเปิดเผย แต่ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่ประเทศไทย นายชิเรอิจะมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นนำเงินมามอบให้ครั้งละ 10,000 บาท เป็นประจำ ปีละ 2-3 ครั้ง”
“ขณะนี้ได้สอบสวนเรื่องการเข้าเมือง เนื่องจากนายชิราอิ ไม่มีพาสปอร์ต หรือเอกสารนำเข้าประเทศ กำลังจะสอบสวนว่าใครพาเข้ามาในประเทศ และใครให้ที่อยู่อาศัย โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เน้นถึงแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ให้ตำรวจช่วยกันสอดส่องดูแล ป้องกันไม่ให้แก๊งอาชญากรรมข้ามชาติใช้ประเทศไทยเป็นที่พักพิงหลบหนี วางแผน ก่อเหตุ โดยขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยได้ประสานงานกับทางตำรวจญี่ปุ่น เพื่อนำรายชื่อสมาชิกแก๊งยากูซ่ามาใส่ไว้ในฐานข้อมูลของไทย เป็นการร่วมมือกันจับแก๊งยากูซ่า” พล.ต.อ.วิระชัย กล่าว
“เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด เป็นคนต่างด้าว ไม่แจ้งที่พักอาศัยตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง ดำเนินคดีตามกฎหมายและประสานงานให้ทางการญี่ปุ่นดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง”
