กทม.ออกประกาศ ร้านเหล้า-ผับบาร์-คาราโอเกะ เฮ เปิดได้ถึง 24.00 น.เริ่มพรุ่งนี้ แต่ยังคุมเข้มมาตรการป้องกัน ฉีดวัคซีนครบเกณฑ์-ตรวจ ATK

เมื่อวันที่ 31 พ.ค.65 ที่ศาลาว่าการกทม. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 53) ด้วยได้มีการประกาศใช้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 45) ลงวันที่ 30 พ.ค.65

โดยที่สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่คลี่คลายลง ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องเพื่อควบคุมการระบาด และด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและประชาชนในการเข้ารับการฉีดวัคซีนและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดขึ้นอย่างเคร่งครัดส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวลดลงเป็นลำดับ จนสามารถผ่อนปรนให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถดำรงชีวิตและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมได้ใกล้เคียงกับปกติมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกยังคงระดับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคระบาดใหญ่ (Pandemic) ที่ยังคงจำเป็นต้องคงไว้ซึ่งมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ซึ่งฝ่ายสาธารณสุขได้ดำเนินการตามแผนงานเพื่อรองรับนโยบายการเปิดประเทศและเตรียมเข้าสู่ระยะเปลี่ยนผ่านที่จะประกาศเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) อันจะเป็นผลให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการบริหารจัดการด้านสาธารณสุข และการดำเนินชีวิตของประชาชนกลับสู่สภาวะปกติมากยิ่งขึ้นสอดคล้องกับแนวทางของนานาประเทศ รัฐบาลโดยข้อเสนอของฝ่ายสาธารณสุขจึงเห็นสมควรพิจารณาผ่อนคลาย มาตรการควบคุมและป้องกันโรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์

ดังนั้น เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34(6) และมาตรา 35(1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 ส.ค.65 (ฉบับที่ 36) ลงวันที่ 21 ต.ค.64 (ฉบับที่ 37) ลงวันที่ 30 ต.ค.64 (ฉบับที่ 41) ลงวันที่ 8 ม.ค.65 (ฉบับที่ 42) ลงวันที่ 21 ม.ค.65 (ฉบับที่ 44) ลงวันที่ 29 เม.ย.65 และ (ฉบับที่ 45) ลงวันที่ 30 พ.ค.65 ผู้ว่าฯกทม.

โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 6/2565 เมื่อวันที่ 30 พ.ค.65 จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

1.สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้ปิดดำเนินการไว้ก่อน ยกเว้นสถานที่ที่ผ่านการตรวจมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรค COVID – 19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่ (Thai Stop Covid 2 Plus) ของกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยแล้ว และได้รับอนุญาตจากสำนักงานเขตพื้นที่

สามารถปิดให้บริการได้โดยผู้ประกอบการหรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบสถานที่ต้องจัดเตรียมสถานที่ให้เป็นไปตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร(COVID – Free Setting) และต้องกำกับดูแลความพร้อมของบุคลากรผู้ให้บริการและผู้เข้ารับบริการให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา และมาตรการป้องกันโรคต่างๆ ตามที่ราชการกำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ ดังนี้

(1) การเปิดให้บริการ การจำหน่ายและการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ภายในร้าน สามารถทำได้ไม่เกินเวลา 24.00 นาฬิกา โดยงดกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดความแออัด

(2) ผู้ประกอบการหรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบสถานประกอบการต้องดำเนินการจัดให้ผู้ให้บริการและบุคลากรในความรับผิดชอบได้รับการฉีดวัคนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดรวมทั้งได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) แล้ว และหากเป็นการบริการลักษณะสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา

โดยในทุกสัปดาห์ให้มีการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 โดยใช้ชุดตรวจและน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS Cov-2 (เชื้อก่อโรค COVID-19) แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตัวเอง (ชุดตรวจ ATK) รวมทั้งประเมินความเสี่ยงของตนเองผ่านแอพพลิเคชั่นไทยเซฟไทย (Thai Save Thai) ของกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัย

(3) ผู้ประกอบการหรี่อผู้มีหน้าที่รับผิดชอบสถานประกอบการต้องดำเนินการตรวจคัดกรองผู้ใช้บริการเพื่อความปลอดภัย โดยจะให้บริการได้เฉพาะผู้ใช้บริการที่แสดงหลักฐานว่าได้รับวัคชีนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดและได้รับวัคซึนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) แล้วเท่านั้น และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention)

อย่างไรก็ดี มีข้อแนะนำให้ผู้ที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด – 19 ที่จะมีอาการรุนแรงหรือความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต (กลุ่ม608) เสี่ยงการเข้าใช้บริการในสถานที่ดังกล่าว

2.สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผม ร้านทำเล็บ และร้านสัก สามารถเปิดดำเนินการได้โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

3.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย สามารถเปิด ดำเนินการได้โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

4.สถานที่ออกกำลังกาย ยิมหรือฟิตเนสที่เป็นห้องปรับอากาศ สามารถเปิดดำเนินการได้โดยต้อง ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

5. โรงมหรสพ โรงละคร การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ที่มีลักษณะเดียวกัน สามารถเปิดดำเนินการได้โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

6.สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอบไอน้ำ อบสมุนไพร สามารถเปิดดำเนินการได้โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

7.กรณีนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ เจ้าของสถานที่ ผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการ ผู้ร่วมกิจกรรม และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ยังคงต้องดำเนินการตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 52) ลงวันที่ 30 เม.ย.65 เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วแต่กรณี

และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นข้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2537

ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.65 เป็นต้นไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน