แม่อนุญาต’บังแจ๊ค’ ก๊อบข้อมูลมือถือ’แตงโม’เก็บไว้ เชื่อไม่มีรูป-คลิปน่าเกลียด ก่อนส่งโทรศัพท์กลับมาให้แม่แล้ว คาดถึงในช่วงปลายสัปดาห์นี้
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.65 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือแม่แตงโม เข้าให้การในฐานะพยาน คดีของกระติก ที่แจ้งความเอาผิดผู้โพสต์ภาพและข้อความกล่าวหาตัวเองและบุคคลบนเรือช พร้อมให้สืบสวนหาบุคคลปริศนาวิดีโอคอลผ่านไลน์หา หลังไปออกรายการโทรทัศน์ ก่อนส่งภาพลับของแตงโมมา
นางภนิดา กล่าวภายหลังเข้าพบตำรวจว่า ตอนนี้ชีวิตสบายดีขึ้นเยอะมาก เพราะได้เคลียร์อะไรไปเยอะแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องโทรศัพท์ของลูกสาว ยอมรับว่าที่ผ่านมาพยายามทำทุกวิถีทางแล้ว ทั้งค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง เพื่อจะได้รู้ความจริงว่าลูกสาวเสียชีวิต เพราะอะไรกันแน่ และพยายามไปติดต่อที่แอปเปิ้ลไทยแลนด์ด้วยตัวเอง แต่ตอนไปถึงทราบว่าผู้จัดการเป็นชาวแคนาดา จึงกลัวคุยกันไม่รู้เรื่องและกลัวความลับรั่วไหล หากต้องคุยกับพนักงานคนอื่น อีกทั้งยังคิดว่าแอปเปิ้ลไทยแลนด์คงไม่ทำให้เราแน่ๆ เพราะเกี่ยวข้องกับคดีใหญ่ และเป็นเรื่องที่ไม่ดี จึงคิดว่าไม่มีใครอยากยุ่ง เลยตัดสินใจกลับบ้าน
นางภนิดา กล่าวว่า หลังจากวันนั้นมีนักข่าวช่องหนึ่งแนะนำให้รับโทรศัพท์บังแจ๊ค ตนจึงตัดสินใจรับสาย เพื่อพูดคุย ซึ่งบังแจ๊คก็แนะนำตัวดี และเล่าข้อมูลบางอย่างให้ฟังว่า เขาได้คุยกับคนบนเรือ 1 คน และคนๆนี้ยอมรับสารภาพแล้วว่าในคืนวันเกิดเหตุเกิดอะไรขึ้น โดยเขาก็เล่าทั้งหมด พร้อมกับส่งสลิปโอนเงิน 300,000 บาท ให้กับชื่อของคนๆ นี้เป็นค่าตอบแทนที่ยอมรับสารภาพกับเขา ซึ่งเรื่องนี้ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจแล้วและต้องตรวจสอบว่าเป็นสลิปจริงหรือไม่
นางภนิดา ยอมรับด้วยว่า ไม่รู้จริงๆว่าประเทศไทยสามารถกู้ข้อมูลได้ และเพิ่งจะรู้วันนี้ เพราะถ้ารู้ตั้งแต่แรกคงไม่ส่งโทรศัพท์ไปให้เสียเงิน ประกอบกับบังแจ๊คบอกว่าจะเอาโทรศัพท์ไปให้หัวหน้าใหญ่ที่ออฟฟิตของแอปเปิ้ลอเมริกากู้ข้อมูลให้ เพราะมีเพื่อนอยู่เยอะ ตนก็เลยเชื่อ จึงตัดสินใจส่งไปให้
นางภนิดา กล่าวว่า ส่วนประเด็นภาพที่สงสัยในมือถือแตงโมนั้น ก็เห็นเป็นภาพจอดำ ไม่เห็นเป็นภาพอะไรเลย ซึ่งตอนนี้จะเชื่อใจบังแจ๊คอยู่หรือไม่นั้น ตนไม่ขอตอบ แต่ได้คุยกับบังแจ๊คแล้วว่าให้เอามาคืน เขาก็กำลังส่งกลับมาให้ และบอกไปเมื่อ 3 วันก่อน คาดน่าจะถึงในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ โดยบังแจ๊คเองได้บอกตนด้วยว่า จะก๊อบข้อมูลไว้ทั้งหมด ซึ่งตนก็ไม่ว่าอะไร เพราะในเครื่องโทรศัพท์ของลูกสาว ไม่มีภาพหรือวิดีโออะไรที่น่าเกลียด เพราะแตงโมชอบถ่ายแต่วิว หมา แมวทั่วไป หลังจากนี้หากโทรศัพท์มาถึงจะนำโทรศัพท์เข้ามาให้ที่สอท.
นางภนิดา กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ไม่โกรธบังแจ๊คที่ยังโพสต์ข้อความและรูปภาพในเพจเฟซบุ๊กของแตงโม เพราะมองเป็นเรื่องปกติ และส่วนตัวคิดว่าสาเหตุที่บังแจ๊คโพสต์อาจจะเป็นเทคนิค ทำให้คนผิดยอมรับสารภาพก็ได้ และจนถึงตอนนี้ตนยืนยันว่า ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองพลาดที่ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ๊ค เพราะจนปัญญาที่จะเข้าถึง ไม่รู้ว่ามีตำรวจไซเบอร์ ด้วยความที่จิตใจร้อน อยากรู้ว่าลูกสาวตายเพราะอะไร ใครเป็นคนทำ และยังเชื่อว่าดีแล้ว ที่ให้โทรศัพท์ไป เพราะได้รู้ข้อมูลอะไรเยอะมาก”
“ยืนยันว่าไม่สนใจอะไร แม้ตำรวจจะบอกว่าบังแจ๊คเป็นคนเพ้อเจ้อ เพราะเชื่อว่าทุกคนเคยมีปัญหา ส่วนหลักฐานที่เห็นจากนายอัจฉริยะ เชื่อว่าเป็นเลือดจริงๆ มีหลายจุด”แม่แตงโมกล่าว
