เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.ผอ. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล. รอง ผบช.ทท. แถลงข่าวเปิดโปงเครือข่ายโรแมนซ์สแกมที่ร่วมกันนำบัตรประชาชนน.ส.ณิชา เกียรติธนไพบูลย์ ไปเปิดบัญชีหลอกเหยื่อซื้อที่ดินจังหวัดตาก
ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ขโมยบัตรประจำตัวประชาชนของ น.ส.นิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ไปเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร และมีความเชื่อมโยงกับแก๊งโรแมนซ์สแกม ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ประกอบไปด้วย 1.นายอายัค ไซมอน อีโก้ สัญชาติแคเมอรูน ซึ่งทำหน้าที่จ้างวาน และนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน 2.น.ส.เจรติ หรือ แอน สายสิน ทำหน้าที่รับเปิดบัญชี จำนวน 3 บัญชี 3.น.ส.ปวีณา หรือ อ้อม สิงห์วิบูลย์ ทำหน้าที่รับเปิดบัญชี จำนวน 5 บัญชี 4.น.ส.พรหมพร หรือ แตน พงษ์เจริญคุณากร ทำหน้าที่เปิดบัญชี จำนวน 2 บัญชี
โดยคดีนี้ เกิดขึ้นจากการที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ขโมยบัตรประจำตัวประชาชนของน.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 10 บัญชี จาก 8 ธนาคาร ก่อนจะนำบัญชีไปใช้หลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินเข้าผ่านบัญชีดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 นางการต์สินี ยะเมา อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านตาก จ.ตาก โดยถูกคนร้ายหลอกลวง ว่า จะส่งพัสดุมาจากต่างประเทศมาให้ แต่ผู้รับจะต้องเสียค่าธรรมเนียมจัดส่ง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ทั้งสิ้น 5 ครั้ง เป็นเงินจำนวนกว่า 340,000 บาท และยังโอนไปยังบัญชีอื่นๆ อีกหลายครั้ง ยอดรวมทั้งหมดกว่า 1,370,000 บาท
จากนั้น เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนจนกระทั่งขออำนาจศาลออกหมายจับน.ส.ณิชาซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี แต่การสอบปากคำน.ส.ณิชากลับให้การว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวง และไม่เคยเปิดบัญชีดังกล่าว อีกทั้งให้การอีกว่า ตนทำบัตรประชาชนหาย 2 ครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม จนพบว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าวขโมยบัตรประจำตัวประชาชนไปเปิดบัญชี ก่อนนำมาก่อเหตุหลอกลวงประชาชนในลักษณะดังกล่าว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าน.ส.ณิชาได้แจ้งบัตรประจำตัวประชาชนหายทั้งสิ้น 2 ครั้ง โดยครั้งแรกทำตอนอายุ 15 ปี และบัตรก็หมดอายุไป ก่อนจะทำใหม่อีกครั้ง และ ทำหายอีกครั้งที่ร้านสะดวกซื้อ และน.ส.ปวีณานำบัตรจากร้านสะดวกซื้อไปเปิดสมุดบัญชีเงินฝากในเวลาต่อมา อีกทั้งจากการสืบสวนสอบสวนยังพบว่าน.ส.ณิชากับครอบครัวไม่มีความผิด และไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งโรแมนซ์สแกมอย่างแน่นอน
ส่วนประเด็นเงินหมุนเวียน จำนวน 6 ล้านบาทนั้น จาการตรวจสอบพบว่า เป็นยอดเงินหมุนเวียนทั้งหมดตั้งแต่ปี 2554 ไม่ใช่เงินก้อนเดียว 6 ล้านบาท ตามที่หลายฝ่ายเข้าใจ อีกทั้งประเด็นการโอนเงิน 100,000 บาท ของบัญชีน.ส.ณิชาตัวจริงออกไปยังบัญชีอื่นนั้น เกิดจากผู้ต้องหาคือน.ส.ปวีณาเปิดแอพพลิเคชั่นทำธุรกรรมการเงิน ทำให้เห็นบัญชีตัวจริงของน.ส.ณิชาและเงิน 1 แสนบาทนั้น ก็เป็นเงินที่น.ส.ปวีณาโกงมาจากนายไซม่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าวน.ส.ณิชานำดอกไม้เข้าขอบคุณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมเปิดเผยความรู้สึกในใจ ว่า ตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก ที่ช่วยให้ความจริงปรากฎ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนสำคัญในชีวิต ซึ่งหลังจากนี้ตนเองจะรอบคอบในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องการฟ้องร้องธนาคารนั้น ตนเองอยู่ระหว่างการปรึกษาทนายความ ว่า จะต้องดำเนินกาอย่างไรต่อไป
