พี่ชาย ร้อง ตำรวจภูธรภาค 5 ล่าคนร้าย ฆ่า4ศพ ผัว-เมียไทย ท้องลูกแฝด หมกท้ายรถหรูที่ไต้หวัน เผยเรื่องคุยกันสายสุดท้าย ชี้เป้าผู้ต้องสงสัย
จากกรณีสามีภรรยาชาวไทย ถูกฆาตกรรม ยัดท้ายรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู จอดทิ้งหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงในประเทศไต้หวัน โดยฝ่ายหญิงกำลังตั้งครรภ์ลูกแฝดได้ 5 เดือน ขณะที่คนร้ายถูกระบุว่าเป็นคนไทย หลังก่อเหตุได้หลบหนีกลับมาประเทศไทย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : กองปราบเตรียมล่า ฆ่า 4 ศพ ผัว-เมียไทย ท้องลูกแฝด หมกท้ายรถที่ไต้หวัน หลังคนร้ายหนีกลับไทย
ล่าสุดวันที่ 13 มิ.ย.2565 นายยิ่งยศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี พี่ชายของ น.ส.พจนีย์ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าพบตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังจากน้องสาวตั้งครรภ์ลูกแฝดได้ 5 เดือนกับนายประเสริฐ (ขอสงวนนามสกุล) สามีของเธอถูกฆาตกรรมแล้วนำศพยัดไว้ในรถเก๋งที่ไต้หวัน เมื่อช่วงวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายงานข่าวที่ไต้หวันระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายไทย สนิทสนมกับครอบครัวน้องสาว หลังเกิดเหตุได้นั่งเครื่องบินหลบหนีกลับประเทศไทย
พี่ชาย ร้อง ตำรวจภูธรภาค 5 ล่าคนร้าย ฆ่า4ศพ ผัว-เมียไทย ท้องลูกแฝด หมกท้ายรถหรูที่ไต้หวัน
นายยิ่งยศ กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชายอายุ 35 ปี สนิทสนมกับน้องสาวเพราะโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก และได้ไปทำงานเป็นล่ามกับน้องสาวที่ไต้หวันเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ทราบว่ามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไรกัน แต่หลัก ๆ น่าจะเป็นเรื่องเงินที่น้องสาวให้ยืม เพราะก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา น้องสาวได้โทรศัพท์มาปรึกษากับเขา
นายยิ่งยศ กล่าวต่อว่า โดยน้องสาวบอกว่า เธอให้ผู้ต้องสงสัยยืมเงินประมาณ 800,000 บาท และสร้อยทองคำหนักกว่า 10 บาท จากนั้น ผู้ต้องสงสัยมาบอกกับเธอว่าเงินกับสร้อยคอที่ให้ยืมถูกคนงานขโมยไป แต่เธอไม่เชื่อจึงโทรศัพท์มาปรึกษาเขาว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งเขาก็เตือนว่าให้ระมัดระวังชายคนนี้ไว้ก่อนจะวางสายไป และหลังจากนั้นไม่รู้ว่าเขามีเรื่องทะเลาะอะไรกันอีก ก่อนจะมาทราบข่าวว่าน้องกับครอบครัวถูกฆ่าอย่างโหดร้าย
นายยิ่งยศ กล่าวอีกว่า ที่อยู่ในประเทศไทยของผู้ต้องสงสัยอยู่หมู่บ้านเดียวกับน้องสาวที่ อ.ไชยปราการ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุช่วงวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านบอกว่า เห็นเขากลับมาที่หมู่บ้านมารับส่งลูกไปโรงเรียน ก่อนจะหายตัวไป อ่านข่าว : พ่อรู้ข่าวช็อก! ลูกชาย-สะใภ้ตั้งท้อง ถูกฆ่าหมกรถยนต์ เผยธุรกิจที่ไต้หวัน เชื่อฝีมือเพื่อนสนิท
สำหรับผู้ต้องสงสัย นายยิ่งยศ เปิดเผยด้วยว่า ปกติแล้วเป็นคนพูดจาดี และสนิมสนมกับน้องสาวมากถึงขั้นเวลาที่อยู่ไต้หวันด้วยกันน้องสาวให้คีย์การ์ดเปิดประตูบ้านเข้าออกได้อย่างสบาย ไม่คาดคิดว่าจะฆ่าน้องสาวของเขาที่กำลังตั้งท้องกับสามีได้อย่างโหดเหี้ยม ซึ่งตอนนี้อยากขอความช่วยเหลือให้ตำรวจช่วยติดตามคดีเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับน้องสาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.วีระชน บุญทวี รองผบช.ภ.5 ได้ส่งชุดสืบภาค 5 ประสานกับท้องที่ สภ.ไชยปราการ ลงไปที่บ้านของผู้ต้องสงสัยในอ.ไชยปราการ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบ
