ศบค.ชี้ใส่-ถอดหน้ากาก ขึ้นกับความสมัครใจ แต่กลุ่มเสี่ยง 608 ไม่ได้รับวัคซีน ผู้ติดเชื้อ เสี่ยงสูง ยังต้องสวมหน้ากาก คนทั่วไปควรสวมเมื่ออยู่ร่วมกับคนอื่น

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.65 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า เรื่องที่ 5 คือ มาตรการผ่อนคลายทางสังคม ที่หลายคนอยากทราบคือเรื่องการสวมหน้ากาก นายกฯ ขอบคุณคนไทยที่ร่วมมือใส่หน้ากากกันถ้วนหน้า ทำให้เป็นเครื่องมือป้องกันโรคโควิดและโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ท่านขอให้เป็นความสมัครใจ ส่วนใหญ่ขอให้ต้องใช้ เพราะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะคนกลุ่มเสี่ยง 608 ไม่ได้รับวัคซีน ผู้ที่ติดเชื้อมีความเสี่ยงสูงต้องใช้เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น ส่วนคนกลุ่มอื่นผ่อนคลายได้

สำหรับประชาชนคนทั่วไปมี 2 ข้อ คือสถานที่ภายนอกอาคารโล่งแจ้ง ให้สวมเมื่ออยู่ร่วมกับคนอื่น โดยไม่สามารถเว้นระยะห่าง มีความแออัด รวมกลุ่มคนจำนวนมาก ระบายอากาศไม่ดี เช่น ขนส่งสาธารณะ ตลาด สนามกีฬา สถานที่แสดงดนตรีมีผู้ชมจำนวนมาก ฯลฯ

และ 2.ภายในอาคาร ยังอยากให้สวมหน้ากาก และถอดหน้ากากกรณีอยู่คนเดียว หรืออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นที่ไม่ได้พำนักเดียวกัน ต้องสามารถเว้นระยะห่างได้ ไม่รวมกลุ่มแออัด และอยู่ในที่ระบายอากาศได้ดี มีกิจกรรมที่จำเป็นต้องถอดหน้ากาก เช่น รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย บริการบริเวณใบหน้า ศิลปะการแสดง ฯลฯ ทั้งนี้ ให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เมื่อกิจกรรมนั้นเสร็จสิ้นควรสวมหน้ากากทันที

“นี่คือความห่วงใยที่ค่อยๆ ผ่อนคลายลงมา ที่ประชุมพูดถึงความสำคัญเรื่องนี้ว่า ในต่างประเทศการสวมหน้ากากบางครั้งแสดงถึงว่าจะเป็นผู้ติดเชื้ออย่างเดียว กลุ่มนี้จะน่ารังเกียจในการบูลลี่แสดงทัศนคติไม่ดีกับคนสวมหน้ากาก ก็ต้องประชาสัมพันธ์ว่า ใครสวมหน้ากากอาจจะเป็นคนรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงสูงอย่างเดียว

ใครรักสุขภาพรักตัวเองต้องการใช้หน้ากากดูแลสุขภาพตัวเอง บางคนอยู่พื้นที่มีฝุ่นละอองที่ทนไม่ได้ หรือแพ้ก็มีสิทธิในการใส่ จึงอยากให้เป็นภาพของสมัครใจในการสวมหน้ากาก บางคนบอกอยากให้ถอดหน้ากาก แต่บางคนยังไม่อยากถอดก็ให้เป็นเรื่องความสมัครใจ อยากให้คงกันไว้อยู่” นพ.ทวีศิลป์กล่าวและว่า อธิบดีกรมอนามัยจะจัดทำรายละเอียดแนวทางต่างๆ จะประกาศใช้เมื่อไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

เรื่องที่ 6 แนวปฏิบัติสำหรับการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ภาพยนตร์ฉบับปรับปรุง ซึ่งเดิมมีข้อกำหนดฉบับที่ 24 และ 34 การผ่อนคลายถ่ายทำภาพยนตร์ ให้ผู้ปฏิบัติหน้าฉากถอดหน้ากากอย่างมีเงื่อนไข เดิม กสทช.อนุญาตละคร ตอนนี้ผ่อนคลายเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. พิธีกรรายการต่างๆ ผู้เข้าร่วมในรายการ ข่าว แข่งขันร้องเพลง ก็ผ่อนคลายได้ แต่ต้องมีเรื่อง COVID Free Setting เช่น รับวัคซีนตามเกณฑ์ เว้นระยะห่าง ตรวจ ATK

และเรื่องที่ 7 การให้บริการวัคซีนเดือนก.ค. 65 เราบอกว่าการจะเข้าโรคประจำถิ่นเข็มกระตุ้นต้องมากกว่า 60% ตอนนี้ฉีดได้ 41.8% ฉีดแล้ว 138.9 ล้านโดส ในกลุ่มคนสูงอายุเข็มกระตุ้น 45.6% นักเรียน 12-17 ปี ได้ 18.4% กระทรวงสาธารณสุขระบุว่าวัคซีนที่มีอยู่ต้องส่งไปถึง รพ.สต.ที่ใกล้ประชาชนที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมและพร้อมใช้ วัคซีนที่เราสั่งซื้อมา 150 ล้านโดส 1 คนฉีด 3 เข็ม เต็มที่ 50 ล้านคน และรับบริจาคมาอีก 15 ล้านโดส

รวมแล้วยังไม่ถึงจำนวนเต็มประชากร 60 กว่าล้านคน ตอนนี้วัคซีนมากมายทั้งหลายไม่ได้เกินจำนวนที่เราปรารถนาอยากให้มีความลำบาก คือความเชื่อเข้าใจผิดและความห่างไกล สธ.ใช้ทุกวิธีนำวัคซีนไปถึงประชาชนให้ใกล้มากที่สุดและเร็วมากที่สุด วัคซีนบางส่วนที่บริจาคจะหมดอายุก็ต้องใช้ประโยชน์โดยเร็ว โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ต้องรีบรับวัคซีนเพื่อลดการเสียชีวิต

ส่วน LAAB แอนติบอดีนั้น ที่ประชุมให้จัดหามา ซึ่งผลการศึกษาความคุ้มค่า 2 มิ.ย.ไปศึกษาพบว่าคุ้มค่า โดยเฉพาะผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ จะช่วยลดการสูญเสียอย่างดี คนที่ต้องการใช้ประมาณ 1.7 แสนคน จะขออนุมัติเปลี่ยนวัคซีนที่ทำสัญญากับแอสตร้าเซนเนก้าบางส่วนมาเป็นแอนติบอดีตัวนี้ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณที่ ครม.เคยอนุมัติ และขยายเวลาการส่งมอบวัคซีนจาก ม.ค. – ก.ย. 2565 เป็น ม.ค. 2565 – มิ.ย. 2566

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน