จัดหนัก! ทนายกองทัพธรรม ฮึ่มฟ้องหมอปลากับพวก 40-50 ล้าน กล่าวหาพระวัดดังโกงเงินกว่าล้าน แจงทุกข้อกล่าวหา ทำให้พระเทพวรมุนีเสียหาย
จากกรณีนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พาผู้เสียหายไปที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์รัฐบาล ยื่นหนังสือถึงนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนา (พ.ศ) เพื่อขอความเป็นธรรม และให้ตรวจสอบพฤติกรรมพระสงฆ์วัดดังที่ จ.นครพนม
โดยเรียกร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม และเจ้าอาวาสวัดมรุกขนคร ภายหลังหลานสาวผู้รับเหมาก่อสร้างวัย 49 ปี ร้องเรียนว่าพระ 2 รูปติดค้างค่าก่อสร้างวัดมรุขนคร ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม เมื่อปี 2539 เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท อ้างติดตามทวงถามแต่ถูกบ่ายเบี่ยง จึงไปร้องเรียนเพื่อให้ตรวจสอบ
คืบหน้าเรื่องนี้ เวลา 10.30 น. วันที่ 23 มิ.ย. ที่วัดพระธาตุพนม นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกองทัพธรรม ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากพระเทพวรมุนี พระครูโสภณภวนานุสิฐ เจ้าอาวาสวัดมรุกขนคร นายสมพงษ์ หมวดไทสง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครพนม นายเอื้อ มูลสิงห์ ไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนม และนายพรหมพิริยะ ยสพันธ์ ทนายทีมงานกองทัพธรรม ร่วมแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง
นายอนันต์ชัย กล่าวว่า วัดมรุกขนคร เป็นวัดที่สวยงาม เดิมเป็นวัดร้างมีอายุเก่าแก่ร่วม 300 ปีและเคยเป็นเมืองโบราณ ขณะนั้น น.ส.จีราพร เจริญนาม อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ดอนนางหงส์ และชาวบ้านมีจิตศรัทธาอยากจะพัฒนาวัดร้างแห่งนี้ให้เจริญ เริ่มตั้งแต่ปี 2534-2539 โดยมีผู้รับเหมาก่อสร้างทั้งหมด 3 ราย
โดย น.ส.จีราพร ขณะนั้นได้บอกเลิกสัญญากับผู้รับเหมาที่หลานสาวไปร้องเรียนและกล่าวหา ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.2539 กับผู้รับเหมารายนี้ เพราะเหตุผู้รับเหมาคนนี้สร้างถาวรวัตถุล่าช้า ไม่ดูแลไม่สนใจและใส่ใจงานที่ก่อสร้างในวัด คนที่บอกเลิกสัญญาไม่ใช่พระ แต่เป็นผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น ผู้ใหญ่บ้านก็คือคณะบุคคลที่มีจิตศรัทธาในการที่จะสร้างวัดนี้
ขณะนั้นวัดมรุกขนครเป็นวัดร้างยังไม่ได้เป็นวัด พระเทพวรมุนี ยังไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้เลย ถ้านายสมเกิด ภูทัศน์ ตาของผู้ร้อง อยากเรียกร้องค่าเสียหายค่าตามที่กล่าวอ้าง จะต้องไปฟ้องคณะบุคคลคือ น.ส.จีราภรณ์ จะมาฟ้องมาร้องพระเทพวรมุนี ไม่ได้ เพราะยังไม่เป็นวัด ถ้าจำไม่ผิดพระเทพวรมุนี มาจำพรรษาที่วัดนี้วันที่ 11 ก.ค.2539
การที่พวกคุณไปร้องสำนักงานพระพุทธฯ ไปบอกนายอนุชา นาคาศัย ว่าพระเทพวรมุนี ค้างค่าจ้างวัดกว่า 1 ล้านบาทท่านไม่รู้เรื่องเลย และยังกล่าวอ้างอีกว่ามีการร้องเรียนไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครพนม และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าได้มีการโทรศัพท์ ไปยัง ผอ.สำนักงานพระพุทธฯแห่งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีการร้องเรียนดังกล่าวด้วย
ต่อมาสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครพนม ได้มีหนังสือชี้แจงลงวันที่ 15 มิ.ย. 2565 ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียนไม่ปรากฏเอกสารร้องเรียนมามาแต่อย่างใด สมมติว่าวัดมรุกขนครมีสถานะเป็นวัดแล้ว หากมีผู้จ่ายเงินค่าจ้างก่อสร้างอาจต้องโดนมาตรา 157 เนื่องจากเจ้าอาวาส หรือพระ มีสถานะเป็นเจ้าพนักงาน
ทนายอนันต์ชัย กล่าวด้วยว่า จะหารือกับทนายกองทัพธรรม จ.นครพนม เพื่อดำเนินการฟ้องร้องและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกคน รวมทั้งนักข่าวที่มากับหมอปลาด้วย เพื่อเรียกค่าเสียหาย 40-50 ล้าน ส่วนลูกศิษย์ของพระเทพวรมุนี อยากเห็นหน้าหมอปลาพร้อมทีมงาน
พระครูโสภณภวนานุสิธ กล่าวว่า กล่าวฝากถึงบุคคลที่ให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆที่ได้ไปแอบอ้างและให้ข่าวบิดเบือนทำให้ประชาชนได้รับข่าวสารผิดเพี้ยน จนทำให้พระเทพวรมุนีเสียหาย เป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ส่วนรายละเอียดเป็นไปตามทนายอนันต์ชัย ไชยเดช กล่าวแถลงข่าว
ด้านนายสมพงษ์ กล่าวว่า ตามที่ปรากฏตามสื่อที่ร้องเรียนมายังสำนักพุทธฯ ตนได้ตรวจสอบตามเวลาที่ปรากฏตามที่แถลงที่สำนักนายกฯ ก็ไม่ปรากฏว่ามีการติดต่อมา ส่วนรายละเอียดเป็นไปตามทนายอนันต์ชัยแถลงเช่นกัน
