‘ชัชชาติ’ ชี้ไฟไหม้สำเพ็งเป็นบทเรียน เร่งหารือ 3 หน่วยงาน ขอกฟน.เช็กหม้อแปลงไฟฟ้ากรุงเทพชั้นในกว่า 400 ลูก พรุ่งนี้ แก้ปัญหาหม้อแปลงระเบิดซ้ำซาก

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.65 ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม.2 ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกทม. ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมประชุมคณะผู้บริหารกทม. ถึงความคืบหน้ากรณีเหตุไฟไหม้ที่สำเพ็งว่า การแก้ปัญหาจะมี 2 ส่วน คือ 1.กระบวนการภายใน ประกอบด้วยผู้บัญชาการเหตุ เพื่อเข้าแก้ปัญหา และวางแผนการฉีดน้ำ 2.กระบวนการภายนอก การไฟฟ้านครหลวงต้องควบคุมความเสี่ยงเรื่องหม้อแปลง ซึ่งภายในเขตกรุงเทพฯชั้นใน มีหม้อแปลงอยู่ประมาณ 400 กว่าลูก

รวมถึงสายสื่อสารที่เป็นตัวไฟลุกลามมายังอาคารที่มีเชื้อเพลิงจำนวนมาก เป็น 3 ปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ โดยมี 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือ MEA การประปานครหลวง (กปน.และตำรวจ ซึ่งจะนัดหารือกันในบ่ายวันพรุ่งนี้ 28 มิ.ย.

ขณะเดียวกัน กทม.จะเร่งหารือในการตัดสายไฟฟ้าและสายสื่อสารให้เร็วขึ้น ขณะนี้ติดต่อทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แล้ว

“เป็นบทเรียนราคาแพงที่ไม่ควรจะเกิด ต้องรีบแก้ไข ประชาชนต้องตรวจสอบความเสี่ยงของตัวเอง เช่น หม้อแปลงที่อยู่ใกล้สายสื่อสารและรกรุงรัง อีกทั้งอยู่ใกล้อาคารที่มีเชื้อเพลิง เป็นปัจจัยที่มีความเสี่ยงทำให้เกิดเหตุไฟไหม้เหมือนเมื่อวานนี้” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนความปลอดภัยก่อนเกิดเพลิงไหม้ที่สถานบันเทิงนั้น สั่งให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เข้าไปตรวจความพร้อมของทางหนีไฟ มาตรฐานการดับเพลิง และเชื้อเพลิงภายในอาคาร

ผู้สื่อข่าวถาม กรณีก่อนเกิดเหตุไฟไหม้วานนี้ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านร้องเรียนไปยัง MEA แต่ได้รับการแก้ไขล่าช้า จนทำให้หม้อแปลงระเบิด เป็นปัญหาซ้ำซาก นายชัชชาติ กล่าวว่า MEA คิดว่า หม้อแปลงไม่ได้มีเชื้อเพลิงอยู่ข้างใน คงต้องดูรายละเอียดกันอีกที แต่เบื้องต้นนัดกับทางรองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง เพื่อหารือแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน