ดีเอสไอ-ตำรวจภูธรภาค 4 พบหลักฐานชัด กลุ่มบุคคลร่วมฆาตกรรม หมวดบอล ระบุ เตรียมยื่นคำร้องต่อศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง

จากกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สนธิกำลังคณะพนักงานสืบสวนที่ 96/2564 ดีเอสไอ กับทหารมณฑลทหารบกที่ 210 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม เข้าตรวจค้นค่ายพระยอดเมืองขวาง จ.นครพนม กรณี ร.ท.รุ่งเฉลิม พันธุ์สวัสดิ์ หรือ หมวดบอล ตำแหน่ง รองผู้บังคับหมวดดุริยางค์ มลฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2564 เวลาประมาณ 19.30 น. เหตุเกิดที่ มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : ดีเอสไอ พบจยย.ต้องสงสัยคดี หมวดบอล ซุกบ้านพักขรก.ในค่ายทหาร

ล่าสุดวันที่ 30 มิ.ย.2565 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสารข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว โดยระบุว่า นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ
รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะผู้กำกับดูแล ได้สั่งการให้ นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค พร้อมด้วย นายวรพจน์ ไม้หอม รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค, ร.ต.ท.เสฎฐวุฒิ สายป้อง ผู้อำนวยการสถาบันการสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสืบสวน

ดีเอสไอ-ตำรวจภูธรภาค 4 พบหลักฐานชัด กลุ่มบุคคลร่วมฆาตกรรม หมวดบอล

ดีเอสไอ-ตำรวจภูธรภาค 4 พบหลักฐานชัด กลุ่มบุคคลร่วมฆาตกรรม หมวดบอล

ร่วมประชุมกับคณะพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อแจ้งความคืบหน้าและประสานข้อมูลการสืบสวนระหว่างหน่วยงาน และร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จำลองเหตุการณ์และเส้นทาง

ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อว่า เป็นเส้นทางในการหลบหนีของคนร้าย โดยผลการสืบสวนสอดคล้องต้องกันว่า คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุครั้งนี้ มีไม่ต่ำกว่า 2 คน มีการวางแผน สร้างเรื่องอำพราง แบ่งหน้าที่ชี้เป้า โดยสะกดรอยติดตามรถผู้ตาย ตั้งแต่ก่อนเข้าค่าย จนถึงจุดเกิดเหตุภายในค่าย และมีการจ้างวานให้คนร้ายอีกคน ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย โดยให้ขับหลบหนีหลังก่อเหตุ เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นผู้ลงมือยิง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพยานในที่เกิดเหตุ

จากนั้น เปิดโอกาสให้คนร้ายอีกคนที่เป็นผู้ลงมือยิงผู้ตายหลบหนีซึ่งได้ใช้อีกเส้นทางหนึ่ง และมีบุคคลภายนอกที่เข้ามาพักอาศัยในค่ายในวันเกิดเหตุ ช่วยเหลือคนร้ายหลบหนี ซึ่งหลังจากนี้จะได้ประสานข้อมูลเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป

กรณีดังกล่าวเป็นการทำงานแบบบูรณาการ ระหว่างพนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายสืบสวน และคณะพนักงานสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่มีประสิทธิภาพ อันเป็นวิธีการทำงาน
ภายใต้พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ที่มุ่งร่วมกันใช้ทรัพยากรของรัฐในการปราบปรามอาชญากรรมสำคัญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน