ทนายโนบิ นำกลุ่มผู้เสียหายรวมตัวบุก ปอศ. ร้องถูกตุ๋นลงทุน แชร์ออมเงิน เสียหายกว่า 30 ล้านบาท บางรายหมดตัว ไม่มีเงินรักษาแม่จนตาย

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ก.ค.2565 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ และ นายภาณุมาศ จิตวศินกุล นักธุรกิจ ได้พากลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วรเดช ชมพูพันธ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความหลังโดนหลอกให้ลงทุนออมเงิน​ในวงแชร์ ความเสียหายรวมแล้วเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท

นายกฤษฎา กล่าวว่า วันนี้พากลุ่มผู้เสียหายเป็นชาวบ้านที่ จ.อุดรธานี ซึ่งถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเล่นแชร์ ประกอบด้วยแชร์บ้านมล, ท้าวกุ้ง และบ้านมะลิวรรณ ท้าวแชร์กุ๊ก ความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท แต่สุดท้ายวงแชร์ก็ล้ม ผู้เสียหายบางรายที่มีลูกเป็นผู้ป่วยติดเตียง อยากนำเงินไปเป็นค่ารักษา แต่ก็ทำไม่ได้ บางรายก็ไม่มีกระทั่งเงินค่าทำศพคนในครอบครัว เพราะถูกหลอกจนหมดตัว

ด้าน นายภาณุมาศ กล่าวว่า เท้าแชร์เริ่มจากการชักชวนเพื่อนฝูงให้มาร่วมลงทุน ก่อนขยายวงเรื่อยมา จนมีบ้านแชร์ 2 บ้าน บ้านแรกมีผู้ร่วมลงทุน 300 ราย อีกบ้านก็มีสมาชิก 200 กว่าราย โดยเท้าแชร์มีการให้เงินค่าหัวคิว เพื่อชักชวนหาสมาชิกเพิ่ม จนกระทั่งเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ก็ประกาศล้มวงแชร์ไป

นายภาณุมาศ กล่าวต่อว่า คดีนี้ต้องแยกผู้เสียหายออกเป็น 2 ส่วน กรณีแรกคือ การเปิดวงแชร์หลายวง โดยใช้ชื่อคนสนิทเพื่อรับเงินจากลูกแชร์ เมื่อได้เงินมาเป็นจำนวนมากแล้วก็ประกาศล้มวงแชร์ ส่วนอีกกรณีเป็นการหลอกให้ผู้อื่นมาร่วมลงทุนปล่อยกู้ให้ลูกแชร์ อ้างว่าเพื่อเสริมสภาพคล่อง ขณะนี้มีผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือประมาณ 30 ราย ความเสียหายกว่า 30 ล้าน

นายภาณุมาศ กล่าวอีกว่า เหยื่อบางรายแม่ป่วยไม่มีเงินค่ารักษา ต้องปล่อยให้แม่เสียชีวิตโดยที่ไม่สามารถจะทำอะไรได้ ทราบอีกด้วยว่า ขณะนี้เท้าแชร์ก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ และเปิดร้านอาหารอยู่ที่ จ.อุดรธานี เมื่อผู้เสียหายไปสอบถามก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าโดนโกงด้วยเช่นกัน

 

ขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนกับเท้าแชร์นั้นรู้จักกันมาก่อน ได้เริ่มเล่นแชร์เก็บหอมรอมริบเรื่อยมาโดยไม่มีปัญหาอะไร จนมีการระดมทุนเพิ่มขึ้น จากหลักแสนเป็นหลักล้าน กระทั่งเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาตนก็ซื้อมือแชร์เพิ่ม จากนั้นแค่อาทิตย์เดียว วงแชร์ก็ล้ม อ้างว่ามือแชร์ตาย โดยตนนั้นสูญเงินไป 1.4 แสนบาท รู้สึกเครียดมาก เพราะต้องนำทองคำของที่บ้านไปหมุนเงินจนถึงกับให้นมลูกไม่ได้ ก็อยากให้ทางตำรวจช่วยด้วย

น.ส.บี (นามสมมติ) กล่าวว่า ตนรู้จักกับเท้าแชร์เพราะเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันและไว้ใจ เพราะเห็นมีพื้นฐานดี อีกทั้งยังเห็นว่าทำวงแชร์มา 5 ปีแล้ว สุดท้ายตนก็ต้องสูญเงินไปรวม 9 แสนบาท ทั้งบ้านเครียดมากต้องขายทองที่เก็บสะสมไว้ เพื่อนำมาเป็นทุนให้ร้านค้าของที่บ้าน ขณะนี้ตนลำบากมาก ก็อยากให้มาใช้หนี้ตนบ้าง

ส่วน น.ส.ซี (นามสมมติ) กล่าวว่า ตนรับมอบอำนาจจากผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งมีอาชีพเป็นแพทย์ โดยผู้เสียหายนี้รู้จักกับคู่สามีภรรยาเจ้าของวงแชร์มาหลายปี กลับถูกหลอกให้ลงทุนไปด้วย 5 ล้านบาท อ้างว่าจะนำไปปล่อยกู้ให้พ่อค้าแม่ค้า ทุก 15 วัน จะได้ผลตอบแทน 5 เปอร์เซ็นต์ แต่มารู้ภายหลังว่าถูกนำไปปล่อยกู้ที่อื่น และยังไม่ได้เงินกลับคืนมาอีกด้วย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนนำมาพิจารณากับพยานหลักฐานก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาสั่งการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน