รวบแล้ว ‘เอก สวนผัก’ พร้อมปืนบีบีกัน ขู่ 3 สาวพีอาร์ อ้างแค่ต้องการให้ตกใจ เปิดปมเดือด แฉประวัติ เพิ่งพ้นคุกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
จากกรณี น.ส.แพร (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี พร้อมด้วย น.ส.ปุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี และ น.ส.เฟย์ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ทั้ง 3 คน เป็นพีอาร์สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งย่านพุทธมณฑลสาย2 เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชน เพื่อดำเนินคดีกับนายเอก อายุ 35 ปี หลังมีพฤติกรรมข่มขู่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : 3สาวพีอาร์ ร้องโดนขู่เอาชีวิต เหตุไม่เอนฯลูกชายขาใหญ่ตลิ่งชัน วัย17 ขณะใส่ชุดนร. ในงานวันเกิด
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 ส.ค.2565 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ตลิ่งชัน แถลงจับกุม นายเอกพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ข้อหา “ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว” ตามคดีอาญา สน.ตลิ่งชัน 833/2565 ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อช่วงค่ำวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกระสุนปืนยาง ขนาด 9 มม. Rubber Bullet 28 นัด ปืนบีบีกัน พกสั้น 1 กระบอก กล่องกระสุนปืนลูกแบลงค์ 1 กล่อง (ไม่พบลูกกระสุนภายในกล่อง) กระสุนปืนบีบีกัน 1 กล่อง
รวบแล้ว ‘เอก สวนผัก’ พร้อมปืนบีบีกัน ขู่ 3 สาวพีอาร์ อ้างแค่ต้องการให้ตกใจ เปิดปมเดือด แฉประวัติ
พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีตามภาพข่าวที่ปรากฏทางสื่อต่าง ๆ กรณี สาวพีอาร์โร่แจ้งความขาใหญ่ตลิ่งชันฉุน ชักปืนขู่คุกคาม เพราะไม่เอนเตอร์เทนลูกวัย 17 ปี ในงานเลี้ยงวันเกิด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้วตามคดีอาญาที่ 833/2565 แล้วได้สอบสวนผู้เสียหายได้ความว่า วันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาติดต่อผู้เสียหายที่ 1 เพื่อจ้างงานเอนเตอร์เทน (ชงเหล้างานวันเกิด) ตกลงค่าจ้างให้คนละ 3,000 บาท ทำงานตั้งแต่เวลา 21.00 น.ของวันที่ 27 ก.ค.2565 ถึงเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ 28 ก.ค.2565
ต่อมา ผู้เสียหายได้มาทำงานให้ผู้ต้องหาที่บ้านผู้ต้องหา กระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. ผู้ต้องหาได้เรียกให้ผู้เสียหายที่ 2 ไปนั่งกับลูกชายของเขา พอไปนั่งได้สักแป๊บ ผู้เสียหายที่ 2 ได้ลุกไปชงเหล้าอีกกลุ่มหนึ่ง พอกลับมาที่โต๊ะ ทางลูกชายและภรรยาของผู้ต้องหา บอกว่าไม่ต้องดูแลแล้ว มีคนชงให้แล้ว ผู้ต้องหาเดินมาที่ผู้เสียหายที่ 2 ว่า “ทำไมไม่ดูแลลูกเขา”
ผู้เสียหายที่ 2 อธิบายแต่เขาไม่ฟัง ผู้ต้องหาก็โวยวาย โมโห หาว่าดูแลไม่ดี แล้วผู้ต้องหาก็ถือกล่องลูกปืนมีลูกปืนเต็มกล่องมาวางบนโต๊ะตรงกลางที่โต๊ะศาลาริมน้ำ ที่กลุ่มผู้เสียหายกำลังชงเหล้ากันอยู่ และพูดกับลูกน้องว่า “มึงไปเอาปืนมาซิ” แต่ภรรยาของผู้ต้องหาบอกว่า “ไม่มีปืน เก็บไปหมดแล้ว”
Advertisement
ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันที่ 28 ก.ค.2565 ผู้ต้องหาได้ทักไลน์ ผู้เสียหายที่ 1 ว่า “ไม่มีความรับผิดชอบ” ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายข้อหา “ข่มขู่ทำให้ตกใจกลัว” ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ตามกฎหมายแล้ว
ส่วนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2565 เวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่ ผู้เสียหายที่ 1 และ ผู้เสียหาที่ 3 ได้ไปรับงานที่บ้านลูกค้า ชื่อ นายวิน ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง โดยลูกค้าคนดังกล่าวเป็นเพื่อนของผู้ต้องหาและเวลาประมาณ 02.00-03.00 น. ผู้ต้องหาได้ไปที่งานเลี้ยงที่บ้านนายวินที่ย่านเสาชิงช้าถนนลงท่า แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพฯ แล้วผู้ต้องหาก็เอาปืนชักออกมาจากเอว พูดว่า “เอาอีนี่ไปกระทืบหน้าร้าน”
โดยลูกน้องของเขาได้แย่งปืนไป ผู้เสียหายที่ 1 ยกมือไหว้ขอโทษ โดยคนที่อยู่ในงานช่วยกันห้ามไว้ ไม่มีการทำร้ายกัน โดยผู้ต้องหาให้ผู้เสียหายที่ 1 กับเพื่อนทั้งหมดมาขอโทษเขาที่บ้านที่สวนผัก แต่กลุ่มผู้เสียหายกลัวจึงไม่ได้ไป ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์แล้ว โดยวันที่ 29 ก.ค. ตามที่ผู้เสียหายที่ 2 ให้การไว้ว่า ได้การ์ดของทางร้านแห่งหนึ่งย่านพุทธมณฑลสาย 2 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ
แจ้งกับผู้เสียหายที่ 2 ว่า มีคนชื่อเอกมารอ เขาบอกว่าวันนี้ไม่เจอไม่เป็นไร เดี๋ยวจะมาทุกวัน จะเอาปืนมายิงสาดที่หน้าร้าน พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในช่วงเย็นวันนี้ต่อไป ส่วนพื้นที่ สน.หลักสอง ยังไม่มีการเข้าแจ้งความแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า เมื่อปี พ.ศ.2563 ถูกจับกุมข้อหา ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้การทำการ, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี 6 เดือน ผู้ต้องหาพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 4 ม.ค.2565
