กรณีสื่อสิงคโปร์รายงานข่าวว่า มีผู้เสียหายกว่า 180 ราย แจ้งความว่าได้พรีออเดอร์สินค้าแบรนด์เนมดังหลายรายการกับนายเควิน พี เจียเผิง (Kavin Pi Jiapeng) ชาวสิงคโปร์ อายุ 26 ปี และภรรยาชาวไทยชื่อ น.ส.ศิริวิภา พันสุข หรือแอน อายุ 27 ปี รวมมูลค่ากว่า 843 ล้านบาทแต่กลับไม่ได้รับของนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 9 ส.ค.ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อมนายเอ (นามสมมุติ) ชาวสิงคโปร์ และ น.ส.บี (นามสมมุติ) ชาวไทย ทั้งสองเป็นแฟนกัน มายื่นหนังสือร้องทุกข์ถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.เพื่อให้รับทำคดีดังกล่าวเนื่องจากองค์กรตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ได้ออกหมายแดงเอาไว้ แต่ยังไม่ได้ประสานเรื่องมาให้ตำรวจไทยรับทำคดี

เหยื่อผัวเมีย โกงพรีออเดอร์ 800 ล้าน แฉอยู่บ้าน 60ล. รถหรูเพียบ สงสัยแม่เกี่ยว

เหยื่อร้อง ผัวเมีย โกงพรีออเดอร์ 800 ล้าน

ทนายไพศาล กล่าวว่า ได้พาตัวแทนผู้เสียหายที่ถูกหลอกขายสินค้าแบรนด์เนมโดยสามีชาวสิงคโปร์และภรรยาชาวไทย หลังผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ และมีการออกหมายจับไว้แล้วที่ประเทศสิงคโปร์ รวมถึงหมายแดงจากองค์การตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล แต่หากประเทศต้นทางยังไม่ได้ประสานมายังตำรวจไทย จะทำให้ตำรวจไม่มีอำนาจในการจับกุม จึงพาผู้เสียหายมาสอบปากคำ หากมีความผิดใดเกิดขึ้นในประเทศ จะทำให้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายของไทยและออกหมายจับผู้ต้องหาได้

เหยื่อผัวเมีย โกงพรีออเดอร์ 800 ล้าน แฉอยู่บ้าน 60ล. รถหรูเพียบ สงสัยแม่เกี่ยว

น.ส.บี (นามสมมุติ) กล่าวว่า ฝ่ายหญิงชาวไทยได้เข้ามาตีสนิท เพื่อให้มาลงทุนซื้อขายนาฬิกาหรู โดยฝ่ายหญิงได้อ้างเบื้องสูง และรู้จักคนดังหลายวงการเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง ซึ่งตนเคยไปพบครอบครัวฝ่ายหญิงถึงที่บ้าน ได้เจอกับแม่ และพี่น้องของเขา ก่อนจะทราบภายหลังว่าแม่เขาขายของอยู่ในตลาด ก็คิดว่าคงต้องขายดีมากๆ

เพราะซื้อบ้านหรูหลังใหญ่ราคา 60 ล้านบาทด้วย และมีรถหรูยี่ห้อดังหลายคัน ทั้งเฟอร์รารี่ โรลส์รอยซ์ กระทั่งเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่งจะรู้ตัวว่าถูกหลอกเพราะไม่ได้ของตามที่ตกลงไว้ จึงแจ้งความไว้ที่ต่างประเทศ และต้องการมาแจ้งความไว้ที่ไทยด้วยเพราะเชื่อว่าครอบครัวผู้ก่อเหตุฝ่ายหญิงจะต้องมีส่วนรู้เห็น

เหยื่อผัวเมีย โกงพรีออเดอร์ 800 ล้าน แฉอยู่บ้าน 60ล. รถหรูเพียบ สงสัยแม่เกี่ยว

ด้าน พ.ต.ท.ชลิต ทิพย์ธำรง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.กล่าวว่า คดีนี้ได้รับเรื่องไว้เพื่อพิจารณาและเสนอผู้บังคับบัญชา สั่งการตามกฎหมาย เบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ หากพบว่าคดีนี้ มีความผิดเกิดขึ้นในประเทศไทยด้วย ก็จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญาเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน