พี่สาว “มอส คลองขวาง” ยืนยัน น้องชายถูกกดดันหนัก ก่อนก่อเหตุยิงถล่มบ้านเพื่อนย่านหนองแขม อ้าง ถูกคนเจ็บบุกชักปืนขู่-คุกคามปมชู้สาว

จากกรณี นายมีน พาระสิงห์ หรือ “มอส คลองขวาง” อายุ 25 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนบุกยิงถล่มบ้านของ น.ส.วรรณวิศาข์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนเพชรเกษม ซอย 106 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. เป็นเหตุให้ นายธนพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี เพื่อนสนิทของน.ส.วรรณวิศาข์ บาดเจ็บสาหัส ต่อมาตำรวจตามจับกุมตัวได้พร้อมลูกน้อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : ‘มอส คลองขวาง’รับสารภาพ เปิดปมยิงถล่ม 16 นัด แค้นปมรัก-โมโหเปียแชร์ไม่ได้

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 ส.ค.2565 น.ส.นันทวัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี พี่สาวของ “มอส คลองขวาง” ผู้ต้องหา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนพร้อมเปิดหลักฐานเป็นแชทที่ตัวนายธนพล ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้เป็นผู้คุกคามน้องชายตนมาตลอด ซึ่งทางครอบครัวทราบเรื่องตั้งแต่ช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โดยน้องชายมักจะมาระบายให้ฟังว่า ถูกนายธนพลบุกไปถึงบ้านพักและถ่ายรูปที่บริเวณบ้านพัก

น.ส.นันทวัน กล่าวต่อว่า และส่งแชทมาเรียกให้น้องชายลงไปเจรจาเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวที่อดีตแฟนของนายธนพลมาติดพันตัวน้องชาย รวมถึงน้องชายยังเคยถูกผู้ได้รับบาดเจ็บใช้อาวุธปืนบุกมาถึงบ้านพักและจ่อที่ศีรษะ ซึ่งผู้บาดเจ็บยังคงคุกคามเรื่อยมาทุกวัน จึงเชื่อว่าเป็นสาเหตุทำให้น้องชายขาดสติและตัดสินใจลงมือก่อเหตุ

น.ส.นันทวัน กล่าวอีกว่า ปกติน้องชายเป็นคนใจเย็น หลังพ้นโทษที่เคยถูกจับกุมคดีร่วมกันวิ่งราวทรัพย์เมื่อปี 2559 ออกมาก็ยึดอาชีพขับแกร็บไบก์ ไม่ได้ยุ่งวุ่นวายกับใคร เพราะหากน้องชายเป็นคนใจร้อนคงก่อเหตุกับผู้บาดเจ็บตั้งแต่ตอนที่โดนในช่วงแรก ๆ ไม่จำเป็นต้องทนมานานกว่า 2-3 เดือน ส่วนความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องวงแชร์นั้น ตนไม่ทราบรายละเอียดมากนัก

พี่สาว "มอส คลองขวาง" ยืนยัน น้องชายถูกกดดันหนัก ก่อนก่อเหตุยิงถล่มบ้านเพื่อนย่านหนองแขม

พี่สาว “มอส คลองขวาง” ยืนยัน น้องชายถูกกดดันหนัก ก่อนก่อเหตุยิงถล่มบ้านเพื่อนย่านหนองแขม

น.ส.นันทวัน กล่าวว่า ทราบแต่ว่าน้องต้องการเปียแชร์รอบนี้ในจำนวนเงิน 20,000 บาท เพื่อนำเงินดังกล่าวมาจ่ายค่ารถแจ๊สสีเหลืองที่ซื้อต่อมาจากนายโย่งที่เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันกับผู้เสียหาย โดยก่อนหน้ามีการตกลงกันซื้อขายรถแจ๊สคันดังกล่าวในวงเงิน 300,000 บาท และทางน้องชายได้จ่ายเงินไป 280,000 บาทแล้ว








Advertisement

น.ส.นันทวัน กล่าวด้วยว่า และขาดเงินก้อนสุดท้ายอีก 20,000 บาท จึงมีความต้องการเปียแชร์ก้อนดังกล่าวมาเพื่อเคลียร์ค่ารถ แต่ทราบมาเพียงเล็กน้อยว่าเท้าแชร์มีการให้เปียใหม่ซ้ำ ทำให้น้องชายตนไม่ได้ ส่วนรายละเอียดตนไม่ทราบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน