เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ม.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความส่วนตัวเข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมที่นายพานทองแท้ กับพวก ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงินการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร โดยมีนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษก ยธ. เป็นผู้รับเรื่อง
นายชุมสาย กล่าวว่า วันนี้ตนนำเอกสารมาขอความเป็นธรรม 2 เรื่อง คือ 1.ขอให้สั่งการควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอทำงานโดยไม่ถูกแทรกแซง กดดันและชี้นำจากบุคคลอื่น หรือพนักงานอัยการสอบสวน โดยขอให้ทำงานอย่างถูกต้องตามกรอบกฎหมาย
นายชุมสาย กล่าวต่อว่า เนื่องจากพบเห็นพฤติการณ์พนักงานอัยการที่ร่วมสอบสวนในคดีดังกล่าวรายหนึ่ง มีลักษณะการทำงาน การให้ข่าวแก่สื่อมวลชน หรือมีพฤติการณ์อื่นที่น่าเชื่อว่ามีการชี้นำ ก้าวก่ายคดีมากเกินไป พนักงานสอบสวนร่วมเป็นเพียงผู้ร่วมฟังในคดีเท่านั้น ไม่มีอำนาจเป็นเจ้าของคดีหรือสั่งการ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวจึงเกรงว่าจะไม่ยุติธรรมต่อผู้ต้องหา
นายชุมสาย กล่าวอีกว่า จึงขอให้สั่งการให้ดีเอสไอพิจารณาดำเนินการขอให้พนักงานอัยการรายนี้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ระบุไว้ในหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดไว้แล้ว และ 2.ต้องการให้ดีเอสไอไม่ตัดพยานออก เนื่องจากมีพยานทั้งหมด 18 ราย แต่ถูกตัดให้เหลือเพียง 3 ราย โดยพยานทั้งหมดเป็นพยานปากสำคัญแต่ถูกตัดออก โดยให้เหตุผลว่า เกรงว่าทางเราจะยืดเยื้อเวลาออกไป
นายชุมสาย กล่าวด้วยว่า แต่ในทางกฎหมายผู้ต้องหาสามารถหาพยานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีมาให้ปากคำเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์เพิ่มเติมได้ เป็นสิทธิของผู้ต้องหา จึงอยากให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษสอบปากคำพยานทั้งหมด อย่างไรก็ตามทางฝ่ายเราก็ได้เตรียมข้อมูลหลักฐานและแนวทางการต่อสู้คดีไว้เรียบร้อยแล้ว
ด้านนายธวัชชัย กล่าวว่า จะนำคำร้องดังกล่าวของนายชุมสายไปยื่นต่อพล.อ.อ.ประจิน เพื่อไปพิจารณาและจะรีบดำเนินการให้โดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะยื่นให้ภายในวันนี้
