‘ชัชชาติ’ เผยวันนี้มีโอกาสฝนตกหนักเพิ่ม ห่วงแนวคันกั้นน้ำตะวันออก อยู่ในระดับเตือนภัย-วิกฤต สั่งเตรียมรับมือน้ำทะเลหนุนสูง 7-10 ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 8 ก.ย.65 ที่ศาลาว่าการกทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า เมื่อคืน (7 ก.ย.) มีฝนตกหนักในพื้นที่เขตลาดกระบัง 130 มม. ถือว่ายังโชคดีที่ฝนไม่ได้ตกเขตบางเขน ยืนยันว่าปริมาณฝนตกหนัก ไม่ได้มีในรอบ 140 ปี แต่เป็นคาบอุบัติซ้ำ (Return Period) จะเกิดขึ้นในรอบ 20 ปี

ส่วนวันนี้มีโอกาสฝนตกหนักเพิ่มขึ้น ปัจจุบันน้ำเหนือปล่อยมาเยอะขึ้น เมื่อเช้าน่าจะประมาณ 1,850 ลบ.ม.ต่อวินาที ยังไม่เยอะเท่าช่วงวิกฤต แต่น้ำในคลองยังเต็มอยู่ ประกอบกับน้ำทะเลหนุน ในวันที่ 7-10 ก.ย.นี้ จึงเป็น 4 ผสาน อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ดังนั้นจึงสั่งการให้เตรียมความพร้อมรับมือ ขณะเดียวกันวันนี้ประสานงานกรมชลประทาน ขอเครื่องสูบน้ำ จำนวน 21 เครื่อง ซึ่งจะเร่งติดตั้งต่อไป

นอกจากนี้ มอบหมายให้รองปลัดกทม.ทั้ง 6 คน เป็นผู้บัญชาการเหตุ ใน 6 กลุ่มโซน มิติไม่ได้มีเพียงเรื่องระบายน้ำเท่านั้น แต่ยังเข้าให้ความช่วยเหลือกับประชาชนด้วย ในแง่ของรถเสีย การขนส่งคน การจราจร การประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเรื่องดังกล่าว จะต้องเข้าพื้นที่ก่อนที่ฝนจะตก

นายชัชชาติ กล่าวถึงภาพที่ลงไปช่วยเข็นรถจนเป็นกระแสดราม่าว่า การลงพื้นที่ มันคือรูปแบบการสื่อสารว่า เราให้ความสำคัญกับใคร เพราะหากเราให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหา เราก็ต้องลงพื้นที่ไปดู จะมานั่งเรียกประชุมไม่ได้ เมื่อลงพื้นที่ไปก็เห็นความตื่นตัว ทั้งผอ.และสก.เขตในพื้นที่

นอกจากนี้ ยังไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้วย ไม่ได้ลงไปสั่งการ แต่ไปเก็บข้อมูลและสังเกตเพื่อเข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง หน้าที่ไม่ได้ลงไปเข็นรถ แต่รถเสียอยู่ เราก็ช่วยแบ่งแรง เมื่อลงไปอยู่หน้างาน ทุกคนเท่าเทียมกัน เมื่อเห็นปัญหาก็เข้าไปช่วย








Advertisement

“อย่ามาพูดว่าเป็นผู้ว่าฯ แล้วมาเข็นรถทำไม แต่มันคืองานที่เจอหน้างาน สไตล์การทำงานใครสไตล์มัน แต่ถ้าไม่ชอบก็รอคนที่ทำอีกแบบ แต่นี่คือสไตล์ตน ที่ลงไปสัมผัสหน้างาน ไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชน จะเห็นว่าลงพื้นที่ไปไม่มีประชาชนด่า แต่กลับดีใจที่เห็นผู้ว่าฯลงมา” นายชัชชาติ กล่าว

ผู้ว่ากทม.กล่าวว่า ขณะเดียวกันการลงพื้นที่ ไม่ใช่แค่การดูน้ำ แต่ยังมีมิติอื่น เช่น การขนส่งคน การจราจร การประชาสัมพันธ์ ซึ่งการลงพื้นที่ไป จะทำให้เห็นปัญหาในภาพรวม เพื่อนำมากำหนดนโยบายในการบูรณาการให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การทำงานทุกคนต้องขยันขึ้น ผอ.เขตต้องลงพื้นที่เราลงเขตได้ ทุกคนก็ต้องลง ตนรู้ปัญหาละเอียด หากถามแล้วตอบไม่ได้ ก็มีปัญหา จึงต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานของราชการ ซึ่งทำให้เห็นความตื่นตัว

เชื่อว่าข้าราชการเก่ง แต่ขอให้มีวิธีคิดที่ถูกต้อง ไม่ต้องสนใจผู้ว่า แต่ขอให้ลงไปแก้ปัญหาให้ประชาชน แล้วไปเจอกันหน้างาน มีอะไรรายงานให้ฉะฉานให้เข้าใจปัญหา เท่านี้คือสิ่งที่ต้องการ ซึ่งจะเห็นได้ว่าโครงการที่ตั้งไว้ 216 โครงการ มากกว่าครึ่งขยับหมดแล้ว โดยเน้นแก้ปัญหาเส้นเลือดฝอย ขณะเดียวกันเส้นเลือดใหญ่ ก็ไม่ได้ละเลย

ส่วนเรื่องการแจ้งเตือนภัยประชาชนนั้น ด้วยรูปแบบกทม.บริบทต่างจากพื้นที่อื่น ซึ่งแต่ละพื้นที่ต้องมีวิธีการสื่อสารให้ดีขึ้น จึงสั่งให้ปรับรูปแบบการประชาสัมพันธ์ แต่ปัจจุบันแต่ละเขต มีการแจ้งเตือนอยู่แล้ว โดยเฉพาะเขตที่อยู่ริมเจ้าพระยา

ขณะที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (07.00 น.) มีฝนตกปานกลางถึงหนัก ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่จุดวัด ปตร.คลองประเวศฯ เขตลาดกระบัง 135.0 มม. จุดวัด ค.บึงใหญ่-วัดทองสัมฤทธิ์ เขตมีนบุรี 99.5 มม.

จุดวัด ปตร.คลองลาดพร้าว เขตวังทองหลาง 64.5 มม. จุดวัดสำนักงานเขตสะพานสูง 64 มม. จุดวัดสำนักงานเขตลาดพร้าว 50.5 มม. ส่งผลให้มีน้ำท่วม 2 จุด ได้แก่ ที่ซ.อินทามระ 45-ซ.อินทามระ 53 ถ.ประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง และ ถ.พัฒนาการ ซ.54 ถึงตัดถ.ศรีนครินทร์

ส่วนระดับน้ำแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออกวันนี้ ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง (สายใต้) (ระดับวิกฤต +1.80) เวลา 07.00 น. ระดับ +1.76 ม.รทก. ระดับเตือนภัย ประตูระบายน้ำแสนแสบ (มีนบุรี) (ระดับวิกฤต +0.90) เวลา 07.00 น. ระดับ +1.03 ม.รทก. ระดับวิกฤต ประตูระบายน้ำลาดกระบัง (ระดับวิกฤต +0.60) เวลา 07.00 น. ระดับ +0.58 ม.รทก. ระดับเตือนภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน