แพทย์แจง ประกาศให้ยุติตั้งครรภ์ช่วง 12-20 สัปดาห์ ถูกกม. เป็นกรณีท้องไม่พร้อม เผย50%มักเลือกตั้งครรภ์ต่อ

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2565 นพ.พีระยุทธ สานุกูล ผอ.สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กล่าวถึงกรณีประกาศกระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้มีการยุติการตั้งครรภ์ในหญิงที่มีอายุครรภ์ 12-20 สัปดาห์ ว่า กฎหมายยุติการตั้งครรภ์มีมาตั้งแต่ปี 2563 ที่อนุญาตให้ยุติการตั้งครรภ์ของคนไข้ได้ จากกรณีที่มีการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญถึงสิทธิเนื้อตัวร่างกายของหญิงที่ตั้งครรภ์ที่สามารถตัดสินใจได้

โดยศาลวินิจฉัยและมอบให้คณะรัฐมนตรีนำไปแก้ไขผ่านระบบสภาให้แล้วเสร็จใน 360 วัน จากนั้น ครม.ได้มีมติให้กระทรวงสาธารณสุข โดยมีคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการแก้ไข ซึ่งมีการแก้ไขมาตรา 301 โดยระบุว่า หญิงใดที่ยุติการตั้งครรภ์ก่อนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ไม่มีความผิด และแก้ไขมาตรา 305 ข้อบ่งชี้ในการตั้งครรภ์ จากเดิมมีข้อบ่งชี้ 2 ข้อ คือ (1) การตั้งครรภ์ทำให้มารดามีอันตรายถึงชีวิต และ (2) กรณีถูกละเมิดทางเพศ ข่มขืนจนเกิดการตั้งครรภ์ ก็เพิ่มข้อบ่งชี้มาอีก 3 ข้อคือ

(3) หากตั้งครรภ์ต่อไปแล้วคลอดออกมาพบปัญหาทุพพลภาพร้ายแรง เช่น กลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม ผิดปกติของอวัยวะ (4) การยุติการตั้งครรภ์อายุต่ำกว่า 12 สัปดาห์สามารถทำได้ โดยแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และ(5) กรณีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ ที่จะยุติการตั้งครรภ์ต้องมีการปรึกษาแพทย์และมีทางเลือกให้มารดาว่าจะทำหรือตั้งครรภ์ต่อ มีการคุยถึงวิธีการทำ และการดูแลหลังการทำ รวมถึงกรณีเด็กนักเรียนที่ต้องได้รับการดูแลจากโรงเรียนต่อ

ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทางแพทยสภาได้ออกเกณฑ์การปฏิบัติแล้ว อ่านข่าว : ราชกิจจาฯ ประกาศสธ. ให้หญิงท้องตามเกณฑ์ ตรวจ-ปรึกษายุติตั้งครรภ์ได้

นพ.พีระยุทธกล่าวว่า ประเด็นสำคัญของประกาศกระทรวงฯ ฉบับล่าสุด คือ มาตรา 305(5) กรณีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ ที่จะยุติการตั้งครรภ์ต้องมีการปรึกษาแพทย์และมีทางเลือกให้มารดาว่าจะทำหรือตั้งครรภ์ต่อ มีการคุยถึงวิธีการทำ และการดูแลหลังการทำ รวมถึงกรณีเด็กนักเรียนที่ต้องได้รับการดูแลจากโรงเรียนต่อ

กรณีผู้ที่เปลี่ยนใจและตั้งครรภ์ต่อก็จะเข้าไปสู่กระบวนการตามนโยบาย คือ เด็กตั้งครรภ์ต้องได้เรียน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีระบบทำให้เด็กจบตามกำหนด ร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้ามาดูแลเด็กเดือนละ 2 พันบาท

หากเป็นการละเมิดทางเพศ กระทรวงยุติธรรมก็ต้องเข้ามาดูแล ที่ผ่านมาการยุติการตั้งครรภ์ในประเทศไทยมีมาก แต่มักทำใต้ดินซึ่งอันตราย กรณีที่เข้าสู่กระบวนการให้คำปรึกษาพบว่า กว่า 50% เลือกที่จะตั้งครรภ์ต่อจนคลอดก็จะมีการดูแลต่อ








Advertisement

“ผู้ที่จะยุติการตั้งครรภ์ตาม (5) ต้องไปพบแพทย์ ได้รับคำแนะนำ ทางเลือก ได้คำปรึกษาจากผู้ที่ถูกกำหนด เช่น พยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ก่อนจึงจะเข้าสู่กระบวนยุติการตั้งครรภ์ได้ แต่คนไข้ 80% ที่ยุติการตั้งครรภ์ จะมาก่อนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ส่วนอีก 20% มาหลังอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ส่วนใหญ่ตอนแรกตั้งใจจะตั้งครรภ์แต่เปลี่ยนใจ เช่น สามีทิ้งไปตอนอายุครรภ์ 3-4 เดือนแล้ว จึงเข้าสู่กระบวนการ (5) ได้” นพ.พีระยุทธ กล่าว

กรณีแพทย์ไม่ได้บังคับว่าจะต้องทำการยุติการตั้งครรภ์ให้ตามที่มีการร้องขอ แพทย์สามารถปฏิเสธที่จะไม่ทำได้ แต่ต้องดำเนินการส่งต่อ หากไม่ส่งต่ออาจจะมีความผิดตามข้อบังคับของแพทยสภา เพราะรู้ว่าหากปล่อยผู้ป่วยออกไปอาจจะเลือกยุติตั้งครรภ์แบบผิดกฎหมายจนเป็นอันตราย

เมื่อถามย้ำว่า ข้อกำหนด (5) เป็นกฎหมายรองรับหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมหรือไม่ นพ.พีระยุทธกล่าวว่า ใช่สำหรับอายุครรภ์ไม่เกิน 20 สัปดาห์ ไม่ใช่มาตัดสินใจไม่พร้อมตอนอายุครรภ์ 6-7 เดือนแล้ว แบบนี้ไม่ได้ มีความอันตรายในการยุติการตั้งครรภ์ ฉะนั้น อายุครรภ์ยิ่งน้อย ยิ่งปลอดภัย

สภาพของทารกในครรภ์ช่วง 12-20 สัปดาห์ เป็นตัวเป็นคนแล้ว อย่างเด็กอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ความยาวเกือบ 6 เซนติเมตรแล้ว น้ำหนักประมาณขีดกว่าๆ ส่วนเด็กอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ก็หนักเกือบ 3 ขีด จึงต้องมาชั่งเรื่องสังคม เศรษฐกิจ ว่าจะสามารถเลี้ยงลูกได้หรือไม่

เมื่อถามถึงความเห็นของหลายฝ่ายที่มองว่ายุติตอนอายุครรภ์มากแล้ว เสมือนการฆาตกรรม รัฐบาลควรจะสนับสนุนในด้านอื่นแทนหรือไม่ นพ.พีระยุทธ กล่าวว่า ต้องชั่งน้ำหนัก แม้ว่าจะเป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่ทางการแพทย์เกณฑ์การคลอดนั้น หากคลอดทารกออกมาตอน 20 สัปดาห์ อวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ ไต ปอด ยังไม่สมบูรณ์ ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ทารกในครรภ์ต้องอายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์เป็นต้นไป จึงจะถือเป็นการคลอดแบบมีชีวิต โดยทางโรงเรียนแพทย์จะยึดที่ 24 สัปดาห์หรือ 6 เดือนขึ้นไป

ด้าน พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ รพ.ศรีสุโข จ.พิจิตร กล่าวว่า ประกาศดังกล่าวที่ยุติการตั้งครรภ์ช่วงอายุครรภ์ 12 – 20 สัปดาห์ มองว่าอายุครรภ์ขนาดเท่านี้ถือว่ามาครึ่งทางของทารกแล้ว อีกไม่กี่สัปดาห์ก็คลอดแล้ว ปัจจุบันเทคโนโลยีการแพทย์มีความก้าวหน้าสามารถเลี้ยงทารกที่คลอดก่อนกำหนดให้มีโอกาสรอดได้มากขึ้น

ส่วนตัวมองว่าควรเน้นเรื่องการให้คำปรึกษาช่วยเหลือคุณแม่ให้สามารถตั้งครรภ์ต่อจนคลอดได้อย่างมีคุณภาพ แล้วให้การยุติการตั้งครรภ์เป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะจากข้อมูลกว่า 80% ของผู้ที่ยุติการตั้งครรภ์เพราะมีปัญหาทางการเงิน เศรษฐกิจครอบครัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน