พ่อค้าไก่ย่าง-ส้มตำ ร้องกองปราบเอาผิดตำรวจ สน.บางเสาธง หลังตก เป็นแพะ คดีวิ่งราวแหวนเพชร 15.8 ล้าน ติดคุกฟรี 7 เดือน เผย ข้อบกพร่องทำคดี
วันที่ 3 ต.ค.2565 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ อายุ 54 ปี อาชีพพ่อค้าไก่ย่างส้มตำ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ภูสิทธิ์ บุญแสง รองสารวัตร(สอบสวน) กก.3 บก.ปปป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกตำรวจ สน.บางเสาธง ยัดข้อหาชิงทรัพย์ จนเป็นเหตุให้ติดคุกอยู่นาน 7 เดือน 10 วัน ทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิด กระทั่งศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ยกฟ้อง
นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า เมื่อปี 2560 ขณะที่ตนกำลังขายไก่ย่างส้มตำอยู่หน้าห้องเช่าที่ จ.นครพนม ได้ถูกตำรวจ สน.บางเสาธง เข้าจับกุมตัว อ้างว่าตนเป็นคนร้ายคดีวิ่งราวทรัพย์แหวนเพชร 3 วง และเพชรแฟนซี 17.34 กะรัต 1 เม็ด มูลค่ารวม 15.8 ล้านบาทเศษ ทั้ง ๆ ที่ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ซึ่งตนก็พยายามชี้แจงอธิบายไปแล้วว่าไม่ใช่ รวมถึงยืนกรานปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ จนทำให้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ระหว่างการพิจารณาคดีเป็นเวลานาน 7 เดือน 10 วัน จนกระทั่งศาลอาญาธนบุรีพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2560 จึงได้รับการปล่อยตัวสู่อิสรภาพ
พ่อค้าไก่ย่าง-ส้มตำ ร้องกองปราบเอาผิดตำรวจ สน.บางเสาธง หลังตก เป็นแพะ คดีวิ่งราวแหวนเพชร 15.8 ล้าน
นายพิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า ถึงแม้จะได้เงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) มาจำนวน 2 แสนบาท แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาความเสียหายทั้งชื่อเสียงตัวเองและวงศ์ตระกูล และความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นมาได้ ในวันนี้จึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าร้องขอความเป็นธรรมเพื่อขอให้ดำเนินคดีเอาผิดกับตำรวจชุดทำคดีดังกล่าวของ สน.บางเสาธง เนื่องจากตนทราบว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้พยายามที่จะปิดสำนวนให้เร็วที่สุด โดยไม่คำนึงถึงความจริง
นายพิสิษบ์ กล่าวอีกว่า ซึ่งวันเกิดเหตุก็ไม่ได้มีการแจ้งประสานกองพิสูจน์หลักฐานให้มาช่วยเก็บลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ และไม่ได้แจ้งเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบทั้ง ๆ ที่ทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายมีมูลค่าสูง นอกจากนี้ ยังมีข้อบกพร่องอื่น ๆ ในการทำคดีอีกหลายประเด็นจนทำให้ตนต้องกลายเป็นแพะรับโทษทางคดี
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งดำเนินการต่อไป
Advertisement
