ชาวนาครวญ ขายข้าวได้แค่โล 6 บาท พิจิตรรวมตัวยื่นร้องรัฐบาล เร่งช่วยราคาข้าวตกต่ำ “บิ๊กตู่”ทุ่ม 2.5 หมื่นล้าน รับจำนำยุ้ง-ฉาง ที่ตันละ 1.1 หมื่นบาท พาณิชย์เผยพร้อมชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ค้าข้าวด้วย ด้านสมาคมโรงสีเร่งรัฐบาลประกาศมาตรการให้ชัด ชาวนาจะได้ชะลอขาย “ปู”ยื่นค้านคำสั่ง ใช้หนี้ข้าว 3.5 หมื่นล้าน กสม.ติงร่างพ.ร.บ.คอมพ์ ส่อละเมิดสิทธิ หวังรัฐบาล-ครม.รับฟังข้อเสนอแนะ

ชาวนาพิจิตรร้องราคาข้าวตกต่ำ

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร นายมานะ วุฒิยากร นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วังกรด และนายมานะ อินทโชติ นายกอบต.วังสำโรง พร้อมกลุ่มเกษตรกรทำนาปี อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร และเกษตรกรชาวนา ต.ดงตะขบ อ.ตะพานหิน กว่า 200 คน เดินทางมายื่นหนังสือให้กับ นายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผู้ว่าฯ พิจิตร โดยมีนายพัฒนา ล้อมวงษ์โสภณ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.พิจิตร เป็นผู้รับหนังสือ

นายมานะกล่าวว่า ในนามกลุ่มเกษตรกรทำนาปี อ.บางมูลนาก อยากให้รัฐบาลแก้ไขผลผลิตข้าวที่ตกต่ำ เพราะตอนนี้กลุ่มเกษตรกรชาวนาที่ปลูกข้าวนาปีโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ 105 ทราบข่าวว่า พ่อค้าคนกลาง รวมทั้งสมาคมโรงสีข้าว จะรับซื้อข้าวหอมมะลิ 105 เกวียนละไม่เกิน 7,000 บาท ซึ่งตรงนี้เกษตรกรปลูกข้าวนาปีอยู่ไม่ได้แน่นอน

วอนรัฐบาลช่วยเหลือ

นายมานะกล่าวต่อว่า ต้นทุนการผลิตข้าว 1 ไร่ ได้ 500 ก.ก.ต่อไร่ หากเกวียนละ 7,000 บาท เกษตรกรชาวนาจะได้เงิน 3,500 บาทต่อไร่ ซึ่งค่าเช่านา 1 ไร่ 1,500 บาท ไหนจะค่าปุ๋ย ค่ายา และค่ารถเกี่ยวข้าวอีก เกษตรกรชาวนาอยู่ไม่ได้แน่นอน ที่เรามาวันนี้ อยากให้ผู้ว่าฯพิจิตรประสานไปยังนายกฯ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาให้ได้ในราคาเกวียนละ 1 หมื่นบาท หากไม่ได้ พวกเราจะมากันใหม่

นายมานะกล่าวด้วยว่า อยากให้ผู้ว่าฯ และรัฐบาลหามาตรการแก้ไขก่อนจะมีการเก็บเกี่ยวข้าว เพราะเดือนหน้าจะเก็บเกี่ยวกันแล้ว ตอนนี้กลุ่มพ่อค้าข้าวกดราคาข้าว ผู้ว่าฯ และรัฐบาลน่าจะหามาตรการแก้ไขและช่วยเหลือเกษตรกรชาวนา ที่ผ่านมารัฐบาลชอบอิงราคาตามตลาดโลก เอาราคาในอาเซียนมาคุยกัน

ด้านนายพัฒนากล่าวว่า จะนำหนังสือร้องทุกข์ของกลุ่มเกษตรกรชาวนาส่งให้กับผู้ว่าฯ พิจิตร และเราจะประสานไปในหลายหน่วยงานให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเราจะดำเนินการภายใน 3 วันนี้ เพื่อให้ส่วนกลางได้รับเรื่อง เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

อ่างทองขายข้าวได้โลละ 6 บาท

ที่ตลาดกลางค้าข้าวสหกรณ์การเกษตรโพธิ์ทอง อ.เมือง จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่ต่างเร่งนำข้าวที่เก็บเกี่ยวได้มาขายกันตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายและเย็น หลังในพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่องประกอบกับบางพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขังทำให้ต้องเร่งเกี่ยวข้าวนำมาขาย แม้จะได้ราคาต่ำก็ต้องยอมดีกว่าปล่อยให้ข้าวเสียหาย

นายสมยศ หล่อเหลี่ยม วัย 48 ปี ชาวนาหมู่ที่ 2 ต.ยางช้าย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า นำข้าวที่เก็บเกี่ยวได้จากนาข้าว 11 ไร่มาขายให้กับตลาดกลาง 9,415 กิโลกรัม ขายได้ทั้งสิ้น 56,348.77 บาท คิดเป็นกิโลกรัมจะได้กิโลกรัมละ 6 บาท จากที่เคยขายได้ในปีก่อนๆ กิโลกรัมละ 10-12 บาท เมื่อคิดแล้วก็รู้สึกท้อ ยังไม่รู้จะขาดทุนหรือไม่ ดีที่เป็นนาของตนเอง หากเป็นนาเช่าคงลำบาก แต่เราเป็นชาวนาก็ต้องทำนา ตอนนี้ราคาข้าวตกต่ำมากก็อยากจะให้รัฐบาลหาวิธีช่วยเหลือ

นายวิรัตน์ งามขำ ผจก.ตลาดกลางข้าวโพธิ์ทอง สหกรณ์การเกษตรโพธิ์ทอง เปิดเผยว่า ช่วงนี้ข้าวที่มาขายส่วนใหญ่จะมีความ ชื้นสูง ราคาข้าวขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ ทางตลาดกลางไม่ได้เป็นคนกำหนด เราต้องอ้างอิงตลาดกรุงเทพและมากำหนดราคา หน้าตลาด ราคาข้าวหอมปทุมก็อยู่ประมาณ 6,000-6,300 บาทต่อตัน ส่วนข้าว 5 เปอร์เซ็นต์ ก็อยู่ที่ราคาประมาณ 5,700 บาท ทุกปีราคาข้าวจะดีกว่านี้ แต่ปีนี้ราคาถูก ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากปัจจัยการส่งออกเป็นปัจจัยหลัก

บิ๊กตู่ลั่นเร่งหามาตรการอยู่

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า ผลจากการบริหาร 2 ปีที่ผ่านมา ภายใต้ศาสตร์พระราชา แม้สถานการณ์ล่าสุด เศรษฐกิจไทยจะยังไม่เติบโตเด่นชัด เนื่องจากปัจจัยภายนอกประเทศ จากเศรษฐกิจโลก ที่ชะลอตัว และการปรับตัวเชิงโครงสร้างภายในประเทศที่ต้องใช้เวลา แต่เริ่มมีสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในหลายภาคส่วน อาทิเช่น ภาคการเกษตรผลผลิตและราคาสินค้าเกษตรดีขึ้นกว่าปีก่อนในบางชนิด โดยดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเดือนก.ย.2559 ขยายตัวโดยรวมร้อยละ 4.0 จากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว หลังจากติดลบมาหลายเดือน แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลางและระยะยาว คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2559 และปี 2560 จะเติบโตใกล้เคียงกันที่ประมาณร้อยละ 3 หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง หรือปฏิรูปเศรษฐกิจไทยใดๆ เลย คาดได้ว่าเศรษฐกิจไทยอีก 5 ปี 10 ปีก็จะเติบโตได้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า กรณีราคาข้าวตกต่ำในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวหอมมะลิ ที่มีข่าวว่าราคาต่ำมากในภาคอีสานปัจจุบัน และอาจจะมีในพื้นที่อื่นๆ ทั้งนี้เป็นผลจากการรับซื้อของโรงสี หรือพ่อค้าคนกลาง อาจเป็นเพราะข้าวมีความชื้นสูง เป็นผลกระทบจากน้ำท่วม ราคาข้าวในตลาดโลก การลดราคาแข่งขันกันของประเทศผู้ผลิตข้าว รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ กำลังกำหนดมาตรการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาให้บรรเทาความเดือดร้อนให้ได้โดยเร็วที่สุด

คาดสัปดาห์หน้าได้ข้อยุติ

“คาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้า จะเร่งให้มีการประชุมให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว เพื่อนำเสนอ ครม.รับทราบ แล้วนำไปสู่การปฏิบัติได้ในทันที ขอบคุณพี่น้องเกษตรกรชาวนาที่ต่อสู้ชีวิต ด้วยความอดทน เสียสละ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้รัฐบาลและประชาชนรับรู้ ความทุกข์ของเกษตรกรชาวนาเสมอ เราจะร่วมทุกข์ไปกับทุกคน รวมทั้งราคาลองกองที่ตกต่ำ รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกับบริษัทประชารัฐ รักสามัคคี ประเทศไทย จำกัด ใช้พื้นที่ตลาดคลองผดุงฯ ข้างทำเนียบรัฐบาล นำผลิตผลชาวสวนลองกอง จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาจำหน่าย ช่วงวันที่ 26 ต.ค.-2 พ.ย.นี้ รวมทั้งการแปรรูปลองกอง เป็นน้ำลองกอง ไอศกรีมลองกอง เพื่อเพิ่มมูลค่า อาหารพื้นเมืองปักษ์ใต้ และสินค้าโอท็อป จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจทุกคนได้มาช่วยกันอุดหนุนด้วย

ทุ่ม 2.5 หมื่นล้านรับจำนำยุ้งฉาง

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 31 ต.ค. คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีนายกฯ เป็นประธาน เรียกประชุมด่วนหลังราคาข้าวตกต่ำอย่างรวดเร็วและรุนแรงในรอบ 10 ปี เพื่อพิจารณามาตรการโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเหนียว ปี 2559/60 (จำนำยุ้งฉาง ) ในราคา 11,000 บาท/ตันข้าวเปลือก ก่อนนำเข้า ประชุมครม.ในวันที่ 1 พ.ย. เพื่อรับทราบ โครงการจำนำยุ้งฉางเพื่อพยุงราคาข้าวไม่ให้ตกต่ำครั้งนี้มีอายุ 6 เดือน เริ่มดำเนินการทันที 1 พ.ย.2559-30 เม.ย.2560 เป้าหมายรับจำนำยุ้งฉางประมาณ 2 ล้านตันเพื่อดูดข้าวออกจากระบบ วงเงินสินเชื่อที่จะกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงิน 22,000 ล้านบาท ค่าฝากข้าว 1,500 บาท/ตัน ค่าใช้จ่ายรวมราว 3,000 ล้านบาท

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ทั้งนี้มาตรการรับจำนำยุ้งฉาง ที่ต้องเร่งดำเนินการนี้เพราะปีนี้ผลผลิตในภาคกลาง ภาคเหนือและภาคอีสานมีผลผลิตออกมากระจุกตัวจำนวนมากในช่วง 2-3 เดือนนี้ คาดว่าจะมีปริมาณสูงถึง 10 ล้านตันข้าวเปลือก ส่งผลให้กระทรวงเกษตรฯในฐานะต้นทางการผลิตข้าว ได้หารือกับสำนักงบประมาณ และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหาราคารับจำนำ เพื่อสรุปราคาที่เกษตรกรจะได้รับ นอกจากเงินค่าจำนำแล้ว ยังมีค่าฝาก 1,500 บาท/ตัน เดิมกำหนดสิ้นสุดโครงการก่อนค่อยรับเงินค่าฝาก แต่ล่าสุดสรุป ค่าฝากจะมีการแบ่งจ่าย 2 ส่วน คือ จ่ายทันที 1,000 บาท/ตัน และอีก 500 บาท/ตันจ่ายหลังสิ้นสุดโครงการและไถ่ถอน ดังนั้นชาวนาที่เข้าโครงการจะได้รับเงินทันที 12,000 บาท/ตัน ไม่เกินรายละ 300,000 บาท

ทุบโต๊ะรับจำนำตันละ 1.1 หมื่น

สำหรับบรรยากาศการประชุมนอกรอบก่อนนำราคารับจำนำยุ้งฉาง เข้าที่ประชุม นบข.เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ และสำนักงบประมาณ ซึ่งในที่ประชุมมีการถกเถียงกันอย่างมาก ระหว่างกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ เพราะกระทรวงพาณิชย์ให้เหตุผลว่า ครม.ล่าสุดอนุมัติเงินช่วยเหลือชาวนาไปแล้ว 3,000 บาท/ครัวเรือน จึงเห็นว่า ราคาจำนำยุ้งฉางควรกำหนดที่ 10,000 บาท/ตัน แต่กระทรวงเกษตรฯ มองว่า ช่วง ที่ผ่านมา ชาวนามีปัญหา ทั้งเรื่องฝนแล้ง น้ำท่วมผลผลิตตกต่ำ จึงอยากเพิ่มราคาจำนำ ยุ้งฉางให้ที่ 11,000 บาท/ตัน ทำให้การประชุมมีความตึงเครียด ต้องถามความเห็นจากนายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ จนนายกรไัฐมนตรีต้อง ทุบโต๊ะขอราคา 11,000 บาทให้ชาวนา จึงได้ราคา 11,000 บาท/ตันเพื่อรับจำนำยุ้งฉาง

รมว.พาณิชย์ยันไม่ได้กดราคา

ที่กระทรวงพาณิชย์ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาราคาข้าวหอมมะลิตกต่ำในระยะนี้ว่า เกิดจากชาวนาเร่งเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงที่มีฝนตกลงมาต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณข้าวออกมากระจุกตัวจำนวนมาก ประกอบกับมีความชื้นสูงเกิน 15 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ราคาต่ำลงตามไปด้วย และราคาที่ตกต่ำก็ไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกพื้นที่ และไม่ได้เกิดจากมีกระบวนการกดราคาชาวนา เพราะทุกฝ่ายต่างออกมาช่วยกันพยุงราคาข้าวไม่ให้ตกต่ำ อย่างไรก็ตามเพื่อช่วยเหลือชาวนา นบข. จะประชุมในวันที่ 31 ต.ค.นี้ เพื่ออนุมัติมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการออกมาตรการรับจำนำยุ้งฉางข้าวหอมมะลิ และจะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเป็นผู้กำหนดมาตรการออกมา เบื้องต้นจะทำให้ราคาข้าวหอมราคาไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อตัน ซึ่งจะจูงใจให้ชาวนาชะลอการขายข้าวออกไปอีก และจะทำให้ราคา ข้าวหอมปรับตัวสูงขึ้นอีก และก่อนหน้านั้นกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มีมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือชาวนาอย่างต่อเนื่องกว่า 19 มาตรการ คิดเป็นงบประมาณ 3,750 ล้านบาท

“ยืนยันว่าไม่มีใครกดราคาข้าวแน่นอนและราคาก็ไม่ได้ตกต่ำทุกที่ มันเป็นแค่ช่วง ที่ชาวนารีบเก็บเกี่ยวและมีฝนตกลงมา บางพื้นที่ถึงขั้นต้องพายเรือเกี่ยวข้าวทำให้ข้าวมีความชื้นสูงมาก ราคาก็ต่ำตาม ตอนนี้ทุกฝ่ายก็ช่วยกันอยู่” นางอภิรดีกล่าว

พร้อมชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ค้าข้าว

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำหรับราคารับฝากข้าวเปลือกหอมมะลิในยุ้งฉางเกษตรกร หรือจำนำยุ้งฉาง ตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก ที่จะเสนอ นบข.นั้น เบื้องต้นกำหนดราคารับฝากข้าวหอมมะลิในยุ้งฉางของเกษตรกรแล้วที่ 90 เปอร์เซ็นต์ของราคาตลาด รวมค่าฝากเก็บอีกตันละ 1,500 บาท เป็นราคารับฝากข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาล 59/60 ในยุ้งฉางของเกษตรกร ตั้งเป้าหมายมีข้าวเปลือกเข้าโครงการ 2 ล้านตัน

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะพิจารณาให้กลุ่มสหกรณ์ที่ต้องการเก็บสต๊อกข้าวในยุ้งฉาง แต่ไม่มีพื้นที่ สามารถเช่าคลังหรือโกดังของโรงสีมาเข้าร่วมโครงการได้ แต่ต้องอยู่ในพื้นที่เดียวกัน จะเป็นอีกช่องทางช่วยดูดซับปริมาณข้าวมาเก็บสต๊อกไว้ก่อนในช่วงที่ผลผลิตออกมาพร้อมกัน เพื่อดึงราคาไม่ให้ตกต่ำ

สำหรับโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าว เก็บสต๊อกข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกเจ้า ฤดูกาล 59/60 ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2559-31 มี.ค.2560 นั้น ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ได้แจ้งรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ และกลั่นกรองวงเงินสินเชื่อแล้ว 11 ธนาคาร มีโรงสีเข้าร่วมโครงการ 354 ราย วงเงิน 85,900 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณข้าวที่ซื้อเก็บสต๊อก 8.92 ล้านตัน สูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ต้องการสต๊อก 8 ล้านตัน

โรงสีเร่งรบ.ประกาศรับจำนำ

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคม ผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึงราคาข้าวเปลือกหอมมะลิที่ลดต่ำลงว่า เนื่องจากข้าวเปลือกหอมมะลิในช่วงนี้ออกมามีคุณภาพไม่ค่อยดี ความชื้นสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวหอมมะลิเริ่มทยอยออกมามากขึ้น แต่ราคาไหนที่จะเหมาะสมขณะนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องดูซัพพลายและดีมานด์ในตลาด ส่วนมาตรการของผู้ส่งออกที่จะออกมาซื้อข้าว 2 แสนตันจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.นั้น คงไม่สามารถกำหนดราคารับซื้อได้ เพราะผู้ส่งออกแต่ละรายต้องไปเก็งราคาในตลาดกันเอง และซื้อข้าวเข้าเก็บในสต๊อก ซึ่งเขาก็ต้องรับความเสี่ยงไป

ด้านนายวิชัย ศรีนวกุล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า สมาคมขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งประกาศมาตรการจำนำยุ้งฉางของเกษตรกรให้มีความชัดเจนว่า ชาวนาจะเริ่มนำข้าวเปลือกไปจำนำยุ้งฉางกับธ.ก.ส.ได้ทันที เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรไม่รีบนำผลผลิตออกไปขายในตลาดช่วงที่มีผลผลิตข้าวหอมมะลิออกมาก และจะทำให้ราคาข้าวหอมมะลิในตลาดไม่ตกต่ำลง โดยรัฐบาล ต้องชี้แจงให้เกษตรกรเข้าใจว่ามาตรการที่ธ.ก.ส.ให้เกษตรกรชะลอการขายข้าวเปลือกช่วงที่มีผลผลิตออกมามาก โดยมีเป้าหมาย 2 ล้านตัน เตรียมวงเงินไว้ 9,978 ล้านบาท โดยให้ตั้งราคาจำนำยุ้งฉางข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเปลือกเหนียวไว้ตันละ 11,700 บาทต่อตัน และได้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท และมีวิธีปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้ชาวนามีทางเลือกในการชะลอการขาย และ ตากข้าวให้แห้งและเก็บไว้ในยุ้งฉางก่อน

หมอวรงค์โผล่แนะช่วยชาวนา

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ราคาข้าวว่า วันนี้ราคาข้าวตกต่ำมาก ตนมีข้อเสนอให้รัฐบาลดำเนินการโดยด่วนเพื่อช่วยชาวนาแบบจริงจัง โดยมาตรการเร่งด่วนที่ต้องทำทันที คือ การจ่ายเงินส่วนต่างช่วยชาวนา เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องเฉพาะหน้าให้มีเงินใช้จ่าย เพราะตอนนี้ชาวนาลำบากมาก ในสภาวะอย่างนี้ประชาชนไม่ต่อว่าแน่ ขอให้เงินถึงมือชาวนาจริงๆ

นพ.วรงค์กล่าวว่า มาตรการระยะกลางต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อม แต่ต้องเริ่มทันที โดยอาจให้ชาวนารวมกลุ่มไม่ขายข้าวเปลือก แต่รวมกลุ่มสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารบรรจุถุงขาย รัฐบาลอาจให้หน่วยงานรัฐซื้อข้าวสารจากกลุ่มเกษตรกร และรณรงค์ให้ซื้อข้าวที่ผลิตโดยกลุ่มเกษตรกรมาบริโภค ส่วนโรงสีนั้นให้ผลิตเพื่ออุตสาหกรรมและส่งออก ส่วนมาตรการระยะยาวนั้น สนับสนุนให้ชาวนาทำการเกษตรแบบผสมผสาน ซึ่งดีกว่าทำนาอย่างเดียว ตนอยากให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือชาวนา ไม่ใช่ปล่อยทุกอย่างผ่านไป ที่สำคัญต้องเริ่มทำทันที และติดตามกำกับแบบเอาจริงเอาจัง

วัฒนาชี้เงินชาวนาหาย 2.5 แสนล.

ด้านนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ได้ติดตามราคาข้าวเปลือกของฤดูกาลผลิต 2559/2560 ซึ่งมีปริมาณข้าวออกสู่ตลาดในช่วง 2-3 เดือนนี้ 22-25 ล้านตัน ราคาข้าวเปลือกเจ้าและ หอมมะลิเหลือตันละ 5,000-6,000 บาท จากที่ชาวนาเคยขายได้ในราคาตันละ 15,000-20,000 บาท ตามนโยบายการแทรกแซงตลาดของพรรคเพื่อไทย ทำให้ชาวนาต้องขาดทุนเพราะต้นทุนการผลิตตกตันละ 10,000 บาท เป็นผลให้เงินของชาวนาหายไป 250,000 ล้านบาท เงินจำนวนนี้จะเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอีกหลายรอบ ทำให้กำลังซื้อหายไปไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านล้านบาท จึงไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดเศรษฐกิจของไทยจึงแย่และไม่มีทางจะฟื้นตัว

นายวัฒนาระบุว่า น่าเศร้ากว่านั้น คือรัฐบาลนี้เอานโยบายการช่วยเหลือเกษตรกร มาเป็นเครื่องมือทำลายพรรคเพื่อไทยและ ผู้เกี่ยวข้อง แต่กลับไม่หามาตรการอื่นมาทดแทน ทิ้งให้เกษตรกรต้องเผชิญกับปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำตามยถากรรม นอกจากนี้ ยังอ้างกฎหมายจัดการกับคนที่ไม่มีทางสู้ กรณีออกคำสั่งทางปกครองเรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชำระค่าเสียหายจากการดำเนินนโยบายช่วยเหลือชาวนา แต่นิรโทษกรรมตัวเองและพรรคพวกไม่ต้องรับผิดชอบไว้ล่วงหน้า พอมีชาวนาเห็นใจจะบริจาคเงินช่วยเหลือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ถูกดำเนินคดีโดยไม่เป็นธรรม กลับถูกทหารเรียกพบและบุกถึงบ้านทั้งที่เป็นสิทธิและเสรีภาพของชาวนา

“ปู”ยื่นปลัดคลังค้านบี้ 3.5 หมื่นล.

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัว ยื่นหนังสือ ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นาย วิษรุ เครืองาม รองนายกฯ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง และนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง รวม 5 คน เป็นการภายในเพื่อให้เพิกถอนคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว เป็นจำนวนเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของปลัดกระทรวงการคลังว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องทำตามขั้นตอนและสิทธิที่พึงมี จริงๆ ต้องการทำเป็นการภายในเงียบๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 27 ต.ค. โดยระบุว่า ขอโต้แย้งคัดค้านคำสั่งทางปกครองดังกล่าว เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับ เลือกปฏิบัติและไม่เป็นธรรม ขอ ให้ปลัดกระทรวงการคลังและผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาเพิกถอนคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว เป็นจำนวนเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะดำเนินการใช้สิทธิตามกฎหมายต่อไป รวมถึง การดำเนินการอื่นใดตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรม

ในหนังสือระบุด้วยว่า ตนยินดีส่งที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความเข้าชี้แจงและนำเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อแสดงรายละเอียดทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพิ่มเติม หากปลัดกระทรวงการคลังและผู้เกี่ยวข้องจะได้แต่งตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาทบทวนและเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวต่อไป จึงแจ้งมาให้พิจารณาภายใน 7 วัน และแจ้งผลการพิจารณาให้ตนทราบโดยด่วน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อทรัพย์สินและชื่อเสียง ตลอดจนความเสียหายที่เกี่ยวข้องโดยตรง จากการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดระเบียบ

กสม.ติง”พรบ.คอมฯ”ส่อละเมิด

วันเดียวกัน นายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า กสม.เป็นห่วงร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฉบับที่.. พ.ศ. ที่อยู่ในการพิจารณาวาระ 2 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เนื่องจากเห็นว่าบางบทบัญญัติอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล รวมถึงสิทธิในการรับทราบและเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะ กสม.จึงมีมติให้ทำข้อเสนอไปยังรัฐสภาและครม. ในประเด็นการกำหนดฐานความผิดและองค์ประกอบฐานความผิดที่มีความหมายกว้างขวาง ขาดคำนิยามตามฐานความผิดที่ชัดเจน ซึ่งจะนำไปสู่การใช้ดุลพินิจและการตีความของผู้บังคับใช้กฎหมาย สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิและเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชน

นายสุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ บางมาตราที่กล่าวถึงกระบวนการและหลักเกณฑ์การระงับ การให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยให้อำนาจรัฐกำกับควบคุม การใช้เสรีภาพ ระงับการทำให้เผยแพร่หรือ ลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยไม่มีการกำหนดลักษณะเนื้อหาประเภทใดที่อาจถูกพิจารณาระงับหรือลบข้อมูล อาจนำไปสู่การจำกัดเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นมากเกินไป รวมถึงในทางปฏิบัติอาจมีการบังคับใช้กฎหมายไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย

“กสม.จึงหวังว่ารัฐบาลและครม.จะนำความเห็นและข้อเสนอแนะไปประกอบการพิจารณา คำนึงถึงหลักการสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะทำให้เห็นว่ารัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง” นายสุรเชษฐ์กล่าว

กรธ.รอ”ครม.”แก้คำปรารภ

ที่รัฐสภา นายนรชิต สิงหเสณี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงว่า ขณะนี้ กรธ.กำลังพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งมีทั้งสิ้น 120 มาตรา โดยพิจารณาไปแล้ว 50 มาตรา ส่วนร่างที่คณะอนุกรรมการยกร่างฯ ร่างขึ้นเทียบเคียงร่างของ กกต.นั้น กรธ.ได้เชิญผู้แทน กกต.มาร่วมประชุมเพื่อรับฟังความเห็นด้วย ส่วนการทำงานของ กรธ.ในสัปดาห์หน้ายังคงพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง

นายนรชิตกล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ไขคำปรารภของร่างรัฐธรรมนูญ เบื้องต้น กรธ.ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพราะ ครม.เป็นผู้ขอ คำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ทราบว่า ครม.จะพิจารณาในวันที่ 1 พ.ย.นี้ หากมีมติอย่างไรคงส่งให้ กรธ.พิจารณาแก้ไขคำปรารภให้ ถูกต้องตรงกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน

เผยคุมเข้มทุนครอบงำพรรค

นายนรชิตกล่าวว่า ส่วนโครงการสัมมนาเรื่อง “การรับฟังความคิดเห็นร่างพ.ร.บ. ว่าด้วย กกต. และร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มา ซึ่งส.ว.” นั้น กรธ.เลื่อนมาจัดในวันที่ 16 พ.ย. เวลา 12.00-16.30 น. ที่อาคารรัฐสภา 2 โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สมาชิกพรรค และองค์กรต่างๆ เข้าร่วม ทั้งนี้ กรธ.ได้ส่งหนังสือเชิญทุกพรรคไปแล้ว ส่วนการ จัดสัมมนารับฟังความเห็นร่างพ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 4 ฉบับ ในพื้นที่ 4 ภาค ทั่วประเทศนั้น กรธ.ได้กำหนดใหม่แล้ว คือวันที่ 7 พ.ย. ที่ จ.ชลบุรี วันที่ 8 ต.ค.ที่ จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 15 พ.ย.ที่ จ.เชียงราย และวันที่ 16 พ.ย.ที่ จ.อุบลราชธานี

นายอุดม รัฐอมฤต โฆษก กรธ. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า กรธ.เน้นเรื่องวิธีการจัดตั้ง โครงสร้าง องค์ประกอบของพรรค รวมถึงการดำเนินการของพรรค ว่ากิจกรรมต่างๆ ต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง และขณะนี้ กรธ.กำลังพิจารณาเรื่องการเงิน และการส่งผู้สมัครของพรรค โดยดูว่าพรรคควรได้รับเงินสนับสนุน หรือเงินบริจาคจากองค์กรภายนอก หรือภาคเอกชนอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้พรรคถูกครอบงำจากกลุ่มทุน หรือใครคนใด คนหนึ่ง โดยมีแนวคิดให้เปิดเผยรายชื่อและกำหนดเพดานเงินบริจาค หากบริจาคมากกว่า 1 แสนบาท จะต้องเปิดเผยรายชื่อ เพื่อให้รู้ที่มาของเงินบริจาค และให้พรรคดำเนินงานทางการเมืองอย่างอิสระ

สนช.ถกถอดถอนเสียบบัตรแทน

วันเดียวกัน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประชุมดำเนินการกระบวนการถอดถอนนายนริศร ทองธิราช อดีตส.ส. สกลนคร พรรค เพื่อไทย ออกจากตำแหน่งจากกรณีใช้บัตรลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ลงคะแนนแทนบุคคลอื่น ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ประกอบมาตรา 64 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นขั้นตอนซักถามของคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ซักถาม และ เปิดคลิปบันทึกภาพการเสียบบัตรลงคะแนน ของนายนริศร ในการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 10 ก.ย.และวันที่ 11 ก.ย. 2556

โดยนายนริศรตอบข้อซักถามยืนยันว่า ภาพในคลิปเป็นตนจริง พร้อมยอมรับการ ฝากบัตรว่าไม่ใช่เฉพาะของนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร และนายคมเดช ไชยศิวามงคล อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังมีมาฝากอีกหลายคน แต่ยืนยันกดบัตรใบเดียวและเป็นบัตรของ ตัวเอง ไม่เคยเสียบบัตรให้ใคร ทั้งนี้ตนเป็นโรคประสาท ชอบเสียบบัตรของตัวเอง หลายใบ ไม่มีของคนอื่นเลย เพราะขี้ลืมโดยเฉพาะหลังจากผ่าตัดลิ้นหัวใจรั่วเมื่อปี 2554 ทำให้มือยุกยิก ไม่อยู่นิ่ง ทั้งนี้ตนสงสัยว่าคลิปมีการตัดต่อหรือไม่ โดยจะทำเรื่องถึงประธาน สนช.เพื่อขอคลิปไปตรวจสอบเพราะช่างภาพไม่ยอมเปิดเผยชื่อ เป็นบุคคลนิรนามที่จะ มาทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีขององค์กรนิติ บัญญัติ เพราะกรณีคลิปกล่าวหานายยุทธพงศ์ มีการพิสูจน์แล้วว่าตัดต่อ ทำให้นายยุทธพงศ์ ฟ้องดำเนินคดีกับคนเผยแพร่คลิปแล้ว

นัดลงมติ 4 พ.ย.นี้

ต่อมาเป็นกระบวนการถอดถอนนาย อุดมเดช รัตนเสถียร อดีตส.ส.นนทบุรี พรรค เพื่อไทย จากกรณีกล่าวหาสลับสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาส.ว. โดยนายอุดมเดชชี้แจงว่า ยืนยันไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้อดีตส.ว. เพราะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีตัวเลือกในแต่ละพื้นที่ อีกทั้งหลักการดังกล่าวได้แถลงข่าวจนสื่อนำไปเสนอ จนรับรู้ทั่วกันแล้ว แต่เมื่อมีข้อท้วงติง จากสมาชิกรัฐสภาว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับแรก ที่เสนอไปมีข้อบกพร่องไม่เป็นไปตามที่หารือกัน จึงเสนอร่างเข้ามาใหม่ โดยที่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าทำได้ ตราบใดที่ประธานรัฐสภา ยังไม่ได้บรรจุระเบียบวาระ ยืนยันว่าร่างรัฐธรรมนูญมีร่างเดียวและไม่ได้ทำตาม อำเภอใจหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ แต่เป็นการแก้ไขเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้ร่วมเสนอ

ทั้งนี้ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้นัด ประชุมสนช.เพื่อรับฟังการแถลงปิดสำนวนด้วยวาจาของคู่กรณีในวันที่ 3 พ.ย.และลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนในวันที่ 4 พ.ย.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน