หนุ่มเปิดใจ หลังถูก2คนร้ายบุกทุบรถ รับผิดจริงจอดตรงที่กลับรถ แต่ทำกันรุนแรงไป เผยครอบครัวผวามาก หวั่นได้รับอันตราย ก่อนเกิดเหตุมีคนย่องมาถ่ายรูป
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 พ.ย.2565 ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านพัฒนาการ กทม. นายจิรวัฒน์ ผู้เสียหาย เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากที่ในโซเชียลมีการแชร์คลิปชายปริศนา 2 คน สวมใส่หมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า นำอาวุธคล้ายกับท่อนเหล็ก มาทุบรอบรถของตนจนเสียหายหนัก ก่อนพากันขี่รถจยย.หลบหนีไป
นายจิรวัฒน์ กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานช่วงเที่ยง ตนรับสายจากนิติคอนโดว่ารถถูกทุบเสียหาย ตนเห็นวงจรปิดจากบ้านฝั่งตรงข้ามว่ามีชายคนหนึ่ง สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า และเดินลัดมาจากซอย 6 มาตรงที่จุดกลับรถที่ตนจอดรถอยู่พอดี หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็กวักมือเรียกใครอีกคน แล้วลงมือใช้ท่อนเหล็กที่พกมาทุบรถของตนอย่างรวดเร็ว จากนั้นชายอีกคนขี่รถจยย.ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน สวมใส่หมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า มารับก่อนพากันหนีไปทันที
โดยก่อนที่จะเกิดเหตุช่วงเวลา 9 โมง มีบุคคลที่อยู่ในซอยเดียวกัน ได้เดินมาถ่ายรูปรถของตน แต่ไม่ทราบวัตถุประสงค์ว่าถ่ายไปเพื่ออะไรก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนไม่รู้เลยว่าสาเหตุที่รถของตนถูกทุบนั้นเกิดจากอะไร ตัดปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบ เรื่องชู้ชาว ออกไปเลย เพราะตนไม่มีอยู่แล้ว แต่ตนสงสัยว่าอาจจะไปขับรถปาดหน้าใครหรือไม่
ส่วนประเด็นที่ตนมาจอดรถบริเวณทางกลับรถนั้น ตนยอมรับว่าผิดจริงเพราะตนนำรถมาจอดบริเวณดังกล่าวทุกอาทิตย์ เนื่องจากว่าภายในบ้านจอดรถได้เพียงแค่ 1 คัน และ บางวันก็จำเป็นที่ต้องมาจอดบริเวณนี้ ที่ผ่านมาเวลาที่ตนจอดรถบริเวณทางกลับรถ มักจะมีนิติคอนโดโทรมาให้เลื่อนรถอย่างรวดเร็ว ตนจึงได้สอบถามนิติคอนโดไปว่า มีใครแจ้งหรือไม่ทราบ มาว่ามีคนแจ้งให้ตนมาขยับรถออกจากบริเวณดังกล่าวด้วย
ซึ่งถ้าหากเป็นเรื่องนี้จริงทำไมจะต้องตีรถตนขนาดนี้ด้วย ตนมองว่ามันรุนแรงเกินไป หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตนติดใจระบบรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ทำไม รปภ. ทำไมปล่อยปละละเลยไม่เข้มงวดรถที่เข้าออกภายในหมู่บ้าน แต่เมื่อสอบถามแล้ว รปภ. อ้างว่ารถจยย.คันนี้วิ่งมาเร็ว เรียกตรวจไม่ทัน ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวรู้สึกวิตกกังวลมาก ภรรยานอนไม่หลับ กังวลว่าหากกลุ่มคนดังกล่าวย้อนมาที่บ้านอีกจะเกิดอันตราย
ทั้งนี้ ทางนิติบุคคลแจ้งว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างทั้งค่าซ่อมรถ ค่าเสียเวลา ค่าทำขวัญด้วย อย่างไรก็ตาม ทราบมาว่า ตัวเจ้าของรถไม่ได้จ่ายค่าส่วนกลางของหมู่บ้านมา 1 ปีแล้ว เนื่องจากไม่พอใจการบริการของ ระบบรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นก็พร้อมที่จะยอมจ่ายเหมือนเดิม