ทนายความ ร้อง ปปง. ตรวจสอบเงินบริจาค ลุงพล สร้างรูปปั้นพญานาค หลังเจอพิรุธ โยกย้ายเงินให้คนสนิท ไม่แจงยอด สงสัย ฟอกเงินหรือไม่

จากกรณี ศาลจังหวัดมุกดาหาร พิพากษาคดีตัดไม้ในเขตป่าสงวน โดยสั่งจำคุก นายไชยพล วิภา หรือ ลุงพล 2 ปี 3 เดือน ปรับเป็นเงิน 45,000 บาท รอการลงโทษ 2 ปี และสั่งรื้อถอนปูนปั้นพญานาคภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. 2565 หลังเปิดรับบริจาคสร้างรูปปั้นพญานาค หรือที่เรียกว่า ปู่ปาริจิตนาคราช บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร อ่านข่าว : โดนอีกคดี! จำคุกลุงพล 2 ปี 3 เดือน ปรับอีก 4.5 หมื่น คดีตัดไม้ในป่าสงวน

ทนายความ ร้อง ปปง. ตรวจสอบเงินบริจาค ลุงพล สร้างรูปปั้นพญานาค หลังเจอพิรุธ โยกย้ายเงินให้คนสนิท

ทนายความ ร้อง ปปง. ตรวจสอบเงินบริจาค ลุงพล สร้างรูปปั้นพญานาค หลังเจอพิรุธ โยกย้ายเงินให้คนสนิท

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ธ.ค.2565 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความ นำหลักฐานเอกสารคำพิพากษา พร้อมสำเนาบัญชีเงินฝากของ นายไชยพล วิภา หรือ ลุงพล มายื่น ร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรม รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษา และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายไชยพลและพวก ฐานความผิดการฟอกเงิน หลังเปิดรับบริจาคสร้างรูปปั้นพญานาค บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ

นายสมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาในฐานะพลเมืองดี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่กกกอก จ.มุกดาหาร ที่ไม่สบายใจเรื่องเงินบริจาคสร้างลานพญานาค ซึ่งมีคดีความบุกรุกป่าสงวน โดยจากข้อมูลยอดการรับบริจาค ประมาณ 1.3 ล้านบาท ต่อมานายไชยพลได้แจ้งสื่อมวลชนว่า เงินบริจาคคงเหลืออยู่ประมาณ 8 แสนบาท แต่ปัจจุบันจากที่ตนเห็นยอดเงินในบัญชี พบว่าไม่มีเงินคงเหลืออยู่แล้ว และมีการโยกย้ายออกไปในบัญชีอื่น ที่เป็นคนในครอบครัว 2-3 บัญชี

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า และยังพบว่ามีการนำเงินบางส่วน ไปซื้อที่ดินส่วนตัวในพื้นที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร โดยใช้ชื่อ นางสมพร หลาบโพธิ์ ภรรยา เป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ จึงมองว่าเป็นการใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ในวันนี้จึงเดินทางมายื่นเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบว่า นายไชยพล และพวกได้รับผลประโยชน์จากเงินบริจาค เข้าข่ายฐานฟอกเงินหรือไม่








Advertisement

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นทนายความของนายไชยพลในคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งตนได้ทำหน้าที่ทนายความอย่างเต็มที่ ก่อนศาลได้พิพากษาตามหลักฐานข้อเท็จจริง แต่นายไชยพลไลฟ์ต่อว่าในลักษณะไม่พอใจ หาว่าตนทำคดีแพ้ทั้งที่เสียเงินจ้าง

“ยืนยันว่าการมายื่นเรื่องให้ตรวจสอบนายไชยพล ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง แต่มาในฐานะที่ปรึกษาของชาวบ้านและพลเมืองคนหนึ่ง” ทนายสมเกียรติ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน