ชูวิทย์ ให้ข้อมูลจเรตำรวจ แฉตม.เอี่ยวออกวีซ่าจีนเทา รวยอู้ฟู่ ขับปอร์เช่ อยู่คอนโดหรูหลังสวน
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 13 ธ.ค. 2565 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางมาเพื่อเข้าให้ปากคำกับ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รองจเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.เจนกมล คำนวล ผบก.กองตรวจราชการ 8 และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เดินทางเข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จเรตำรวจแห่งชาติ ในกรณีตำรวจมีเอี่ยวคดีตู้ห่าว
นายชูวิทย์ เปิดเผยว่าวันนี้เดินทางมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4 และ 5 ที่อาจจะมีความเชื่อมโยงกับมูลนิธิ และสมาคมเถื่อนในการออกวีซ่านักศึกษา กว่า 7,000 คน โดยเฉพาะในจังหวัดข่อนแก่นจากข้อมูลมีมากถึง 3,000 คน และยังเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้อีกหลายพื้นที่ โดยพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 2563-2564
นายชูวิทย์ ยังเผยว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคนหนึ่งที่ขี่รถหรูเปอร์เช่ และมีคอนโดอยู่ย่านหลังสวน ตั้งคำถามว่าทำไมถึงมีทรัพย์สินเหล่านี้ อีกทั้งก่อนมาพบจเรตำรวจแห่งชาติมีบุคคลติดต่อมาเพื่อขอละเว้นส่งรายชื่อในการตรวจสอบ เรื่องนี้ตัวเองมองว่าไม่สามารถละเว้นได้ พร้อมเดินหน้าเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยไม่ละเว้น ถึงจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ยิ่งต้องให้ตรวจสอบเพราะเคยให้สัมภาษณ์มาก่อนหน้านี้ว่าจะเอาผิดโดยไม่ละเว้น
ส่วนการสอบปากคำในวันนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีพล.ต..ท.วีระ จิรวีระ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในประธานคณะกรรมกาาตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ผบ.ตร. แต่งตั้งพร้อมคณะทำงานจำนวน 10 นาย เป็นผู้ตรวจสอบ โดยผบ.ตร.กำชับให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
โดยมีรายงานว่าพบตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกี่ยวข้องจำนวนมากถึง 50 นาย เคยปฏิบัติงานในสังกัดตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4 และ 5 นอกจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ยังมีทีมงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่เห็นพยานหลักฐาน ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องจริง จะมีโทษทางวินัยร้ายแรงสุดคือไล่ออกจากราชการตำรวจ
