วันที่ 6 ก.พ. จากกรณีที่สังคมติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับการพิสูจน์หวย 30 ล้านบาท ว่าความจริงแล้วใครเป็นเจ้าของตัวจริงกันแน่ ระหว่างครูปรีชา ใคร่ครวญ กับร.ต.ท.จรูญ วิมูล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งฟ้องร.ต.ท.จรูญในคดียักยอก เพื่อให้มีการสืบพยานในชั้นศาลต่อไป จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอย่างหนัก โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โอนสำนวนคดีการสอบสวนมายังกองบังคับการปราบปรามเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสามารถตอบคำถามของสังคมได้ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น อ่าน “อัจฉริยะ”เผยหลักฐานน็อคขบวนการหวย30ล้าน! ด้าน “หมวดจรูญ”มั่นใจกองปราบให้ความเป็นธรรม

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับหลักฐานสำคัญที่ทีมสืบสวนกองปราบฯรวบรวมมาได้นั้น เป็นคลิปเสียงการสนทนากันระหว่าง นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ อายุ 58 ปี แม่ค้าขายสลากฯที่ถูกรางวัล ซึ่งโทรศัพท์ไปหา นายปรีชา รวม 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 2560 ซึ่งเป็นวันและเวลาหลังจากที่ทราบผลสลากในงวดดังกล่าวแล้ว โดยในคลิปเสียงมีใจความสำคัญคือ นางรัตนาภรณ์ ได้โทรไปบอก นายปรีชา ด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงว่า นายปรีชาถูกรางวัลที่ 1 เพราะนางรัตนาภรณ์จำได้ว่าบนแผงของตัวเองมีเลขรางวัลดังกล่าวอยู่ และนายปรีชาก็น่าจะเป็นคนซื้อไป แต่หลังจากรับโทรศัพท์แล้ว นายปรีชา ก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่เลขที่ตนซื้อ ตนซื้ออีกหมายเลขหนึ่ง ซึ่งในคลิปเสียง นายปรีชา ยังได้ระบุหมายเลขของตนอย่างชัดเจน

ส่วนหลักฐานคลิปเสียงที่ 2 เป็นคลิปเสียงที่ นางรัตนาภรณ์ แม่ค้าสลากฯคนเดิมโทรหา นายปรีชา อีกครั้ง ในเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 2 พ.ย. 2560 ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งใจความสำคัญ คือ เป็นการย้ำว่า นายปรีชา ถูกสลากดังกล่าว แต่ นายปรีชา ก็ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ถูกรางวัลเช่นเดียวกับครั้งแรก อย่างไรก็ตาม นางรัตนาภรณ์ ก็พยายามย้ำลักษณะยัดเยียดว่า นายปรีชา เป็นคนถูกรางวัล แต่ นายปรีชา ก็ได้ปฏิเสธมาตลอดพร้อมกับย้ำหมายเลขที่ตนเองเป็นคนซื้อมาด้วย ทั้งนี้ทั้งสองคลิปตำรวจกองปราบฯ จะนำเข้าสำนวนการสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาคดี เพราะเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม (กก. 5 บก.ป.) ได้เริ่มตรวจสอบคำให้การของพยานในคดีที่เป็นพยานใหม่ในสำนวนที่ตำรวจภูธรภาค 7 รวบรวมไว้ โดยพยานดังกล่าวระบุว่า เห็นสลากหมายเลขดังกล่าวโผล่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของ นายปรีชา ขณะเดินสวนกันในตลาดเรดซิตี้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ใกล้แผงขายล็อตเตอรี่และยังขอแบ่งซื้อสลากดังกล่าว แต่นายปรีชาไม่ยอมแบ่งขายให้นั้น ซึ่งก็เป็นพยานสำคัญที่ทำให้ตำรวจบช.ภ. 7 ให้น้ำหนัก จนนำไปสู่การสรุปว่า นายปรีชา เป็นเจ้าของสลากที่แท้จริง

แต่จากการตรวจสอบทางเทคนิคที่กองปราบฯ ร่วมกับ ตำรวจบก.ปอท. กลับพบว่า พยานคนดังกล่าวขับรถมาจอดที่ตลาดเรดซิตี้ ในเวลาประมาณ 16.48 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 2560 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่ นายปรีชา ออกจากบริเวณตลาดไปแล้ว โดยปรากฏตามหลักฐานที่ นายปรีชา คุยโทรศัพท์กับ นางรัตนาภรณ์ แม่ค้าขายสลากฯอย่างชัดเจน นอกจากนี้ นายปรีชา ยังให้การด้วยว่า หลังจากรู้ว่าถูกรางวัลที่ 1 ยังได้โทรศัพท์ไปหา นางรัตนาภรณ์ ด้วย แต่จากการตรวจสอบทางเทคโนโลยีกลับไม่พบว่า นายปรีชา โทรหา นางรัตนาภรณ์ ในช่วงดังกล่าวแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน