โฆษก กองทัพเรือ ระบุยังไม่รับการยืนยัน กำลังพลเสียชีวิต 3 นาย เหตุเรือหลวงสุโขทัย จมกลางทะเล เผยช่วยได้ 75 นาย บาดเจ็บ 10 นาย เหลือ 33 นาย ลอยคอกลางทะเล

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.2565 พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเรือหลวงสุโขทัยประสบเหตุน้ำเข้าเรือจนเกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

แต่ขณะนั้นบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง ทำให้เรือเอียง จนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ส่งผลให้เครื่องไฟฟ้าดับส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน ซึ่งผลจากเครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยหยุดทำงานดังกล่าว เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และส่งผลให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียง

ในเวลาต่อมา กองทัพเรือได้สั่งการให้เรือรบและอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์ 2 เครื่อง พร้อม ชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ

โดย เรือหลวงกระบุรี เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลา 20.40 น. และพยายามเข้าเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่และช่วยเหลือกำลังพลจำนวน 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง

ต่อมาเรือหลวงสุโขทัย มีอาการเอียงมากขึ้นและได้จมลงเมื่อเวลา 00.12 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่มีเรือลากจูงเอกชนจากท่าเรือบางสะพานจำนวน 2 ลำ และเรือน้ำมัน STRAITS ENERGY ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรี เรือน้ำมัน STRAITS ENERGY และเรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ช่วยเหลือกำลังพล

เวลา 01.04 น. เฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks จำนวน 2 ลำ ได้เดินทางมาถึง พร้อมทั้งทำการปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล จำนวน 8 แพ ทั้งนี้ เรือต่างๆ สามารถให้การช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว 73 นาย โดยอยู่บนเรือหลวงกระบุรี จำนวน 47 นาย เรือลากจูง จำนวน 4 นาย เรือน้ำมัน “ศรีวิชัย” จำนวน 20 นาย และเรือน้ำมัน STRAITS ENERGY จำนวน 2 นาย ยังคงมีกำลังพลจำนวน 33 นายที่ลอยคออยู่ในทะเล ซึ่งเรือทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ กำลังเร่งค้นหาและช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ เรือหลวงกระบุรี เรือลากจูง และเรือน้ำมัน ศรีไชยา ได้นำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 71 นาย เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพานเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย รักษาที่โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนกำลังพล จำนวน 40 นาย เดินทางไปยังศูนย์พักพิง สำหรับกำลังพลที่ขึ้นมาจากเรือน้ำมัน ศรีไชยา จำนวน 20 นาย เดินทางไปยังโรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อตรวจร่างกายและคัดแยกต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 07.00 น. เรือหลวงกระบุรี ได้เดินทางจากท่าเรือบางสะพานไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือ ร่วมกับเรือหลวงอ่างทอง รวมถึงอากาศยานแบบ Dornier และเฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks ที่กำลังเร่งค้นหากำลังพลทั้งหมดและเตรียมการกู้เรือหลวงสุโขทัยต่อไป

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวกำลังพล เสียชีวิต 3 นาย พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการยืนยัน

ทั้งนี้ กองทัพเรือ โดยกองเรือยุทธการได้ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือกำลังพลและกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ

ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 038182435 และ 0840023554 ล่าสุดมียอดกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว จำนวน 75 นาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน