กรมเจ้าท่า เผย เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด ลูกเรือ-ช่างสูญหาย 5 ราย เสียชีวิต 2 ราย ออกคำสั่ง ห้ามใช้เรือ-ระงับการใช้ท่าเรือ เล็งหารือฟื้นฟู-เยียวยา

จากกรณี เรือบรรทุกน้ำมัน สมูธซี 22 หมายเลขทะเบียนเรือ 620000791 เป็นเรือเปล่าภายในไม่มีสินค้า ได้แจ้งเข้าเมืองท่าสมุทรสงครามตามระบบ NSW เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2566 เข้าเทียบท่า อู่เรือ บริษัทรวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด เพื่อรอซ่อมบำรุงประจำปีที่อู่อาชิม่า โดยมีลูกเรือทั้งหมด 17 คน ขณะเกิดเหตุมีช่างจากบนฝั่งขึ้นมาบนเรือ 27 คน เกิดเหตุเพลิงไหม้ขณะจอดรอทำการซ่อมแซม อยู่บริเวณท่าเทียบเรือ บริษัทรวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด ทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต 2 ราย สูญหาย 5 ราย อ่านข่าว : เจออีกศพเกรียม! ในเรือน้ำมันบึ้ม น้องหมา 5 หมื่นตกใจตายด้วย เจ้าของสุดเศร้า

กรมเจ้าท่า เผย เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด ลูกเรือ-ช่างสูญหาย 5 ราย เสียชีวิต 2 ราย ออกคำสั่ง ห้ามใช้เรือ-ระงับการใช้ท่าเรือ

กรมเจ้าท่า เผย เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด ลูกเรือ-ช่างสูญหาย 5 ราย เสียชีวิต 2 ราย ออกคำสั่ง ห้ามใช้เรือ-ระงับการใช้ท่าเรือ

ล่าสุดวันที่ 18 ม.ค.2566 กรมเจ้าท่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถควบคุมและดับเพลิงได้เรียบร้อยแล้ว พร้อมออกประกาศ คำสั่ง ห้ามใช้เรือ ระงับการใช้ท่าเรือ ประกาศระมัดระวังในการเดินเรือและใช้เรือ และออกหนังสือเชิญผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าให้ข้อเท็จจริง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสงคราม ลงวันที่วันที่ 18 ม.ค.2566

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า จากเหตุการณ์ระเบิดของเรือสมูธ ซี 22 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ได้สั่งการให้ กรมฯ เร่งตรวจสอบ แก้ไข เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งในการนี้ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย

ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุหาสาเหตุภายใน 10 วัน ร่วมกับเจ้าพนักงานตรวจเรือ เจ้าพนักงานตรวจท่า จากกรมเจ้าท่า ผู้เชี่ยวชาญ จาก บริษัท พีเอสพีสเปเชียลลิตี้ส์ จำกัด และบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ในการสอบสวนคนประจำเรือและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของอู่เรือบริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการล้างถัง free gas หากพบว่ามีการปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง อันส่งผลให้ เกิดเหตุระเบิด ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด

การเยียวยาผู้ประสบเหตุ ตรวจสอบพบว่า เรือสมูธซี 22 มีประกันภัย ดังนี้

1.ประกันภัยแบบ Hull & Machinery เจ้าของเรือ (ผู้ปฏิบัติการ และผู้เช่าเรือ) จ่ายเบี้ยประกัน (H&M)​ คุ้มครองถึงวันที่ 26 มีนาคม 2566 วงเงิน 60 ล้านบาท

2.ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองถึงบุคคลที่สาม เจ้าของเรือ (ผู้ปฏิบัติการเรือ และผู้เช่าเรือ) เป็นผู้จ่ายเบี้ยประกัน (P&I)​ คุ้มครองถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 วงเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กรมฯ จะดำเนินการประสานบริษัท สมูธซี จำกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อหารือในขั้นตอนของการฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน