เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ร.ต.อ.ภูวเดช ชัยจันทึก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากศูนย์ทางศูนย์วิทยุ 191 สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ ว่ามีคนผูกคอเสียชีวิต ภายในกระท่อมสวนท้ายหมู่บ้านคลองเรียง หมู่ที่8 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ และ แพทย์เวรโรงพยาบาลชัยภูมิ
ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมนาอยู่บริเวณกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน คลองเรียง หมู่ที่8 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ภายในกระท่อมพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อยู่ในสภาพเนื้อตัวแข็ง ลิ้นจุกปากแขวนคอกับคานไม้ด้วยผ้าขาวม้า โดยสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล กางเกงยีนขายาว จากการตรวจร่างกายพบบัตรประจำตัวประชาชนทราบชื่อคือนายประทวน ดังชัยภูมิ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 บ้านผือ หมู่ที่ 1 ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ
เบื้องต้นสอบถามไปยังนายวิจิต คำอิน ผู้พบผู้เสียชีวิตคนแรก กล่าวว่า ตนเองจะออกมาดูสวนทุกเช้า และช่วงเย็นเป็นประจำในทุกวันโดยเช้านี้ก็มาดูเหมือนทุกวัน ขณะที่ตนเดินทางมาใกล้ที่จะถึงกระท่อมบ้านต้นไม้ในสวนของตนเองนั้นมองดูไกลๆคล้ายกับมีคนกำลังยืนอยู่ในกระท่อมของตน ตนจึงรีบเข้าไปดู เมื่อมาถึงกระท่อมก็ต้องผงะ เมื่อพบว่าร่างคนที่ยืนอยู่ในกระท่อมดังกล่าวนั้นคือร่างคนผูกคอตาย กับคานไม้ในกระท่อมของตนเอง ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบสาเหตุการตายในครั้งนี้
ขณะที่เพื่อนผู้ตายกล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมาผู้ตายมาหาตน แล้วบอกว่าทะเลาะกับภรรยาจึงมาดื่มเหล้าจนเมาหลับไปที่บ้าน ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสถานที่เกิดเหตุ โดยไม่คิดว่าเพื่อนตนเองจะน้อยใจจนขนาดมาแอบมาผูกคอตายในตอนไหนไม่ทราบ
ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียงเมื่อทราบข่าว ก็ต่างวิพากษ์วิจารณ์กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้นก็มีชายต่างหมู่บ้านต่างอำเภอ แอบมาฆ่าตัวตายในลักษณะเดียวกันนี้ คือใช้เชือกหรือผ้าผูกคอตายเหมือนกันในเขตหมู่บ้านนี้ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะมีอาถรรพ์ โดยจะปรึกษาผู้นำชุมชนเพื่อที่จะเร่งทำบุญหมู่บ้านตามศาสนาต่อไปอีกด้วย
ด้าน ร.ต.อ.ภูวเดช ชัยจันทึก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ และแพทย์เวร ร.พ.ชัยภูมิ ตรวจสอบในที่เกิดเหตุเบื้องต้นไม่มีร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างไร โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานถึงการเสียชีวิตในครั้งนี้ให้ชัดเจนต่อไปอีกด้วย ก่อนที่จะติดต่อญาติเพื่อเดินทางมารับร่างผู้เสียชีวิต ไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไปอีกด้วย
