จากกรณีคดีหวยอลเวง รางวัล 30 ล้านบาท ที่ตำรวจกำลังตรวจสอบและพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่แท้จริงระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังสี จ.กาญจนบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจ บช.ภ. 7 ได้สอบสวนก่อนออกมาระบุว่า นายปรีชาน่าจะเป็นเจ้าของที่แท้จริง และยังเตรียมดำเนินคดีกับร.ต.ท.จรูญอีกด้วย สุดท้ายผบ.ตร.มีคำสั่งโอนคดีมาให้กองปราบปราม เข้าไปดำเนินการ ล่าสุดทางตำรวจกองปราบปราม พบหลักฐานต่างๆ มากมาย รวมทั้งยังนำนายปรีชาไปจำลองเหตุการณ์ที่ตลาดเรดซิตี้ อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อเปรียบเทียบกับคำให้การเดิม ล่าสุดผบช.ก.เผยครูปรีชาขอพบตร.กองปราบฯจริงส่วนจะรับสารภาพหรือไม่รับนั้นจะรู้เอง ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว เรียกเจ๊เกียว เค้นหวยอีกรอบตร.ปัดครูกลับลำ แค่ติดต่อขอพบ
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังสี เปิดบ้านพักในพื้นที่ตำบลปากแพรกอำเภอเมืองกาญจนบุรี เปิดใจกับผู้สื่อข่าว หลังในช่วงนี้มีการเผยแพร่คลิปเสียงและแชทไลน์หลุด ที่เชื่อกันว่าเป็นการสนทนาระหว่างครูปรีชากับเจ๊บ้าบิ่น แม่ค้าลอตเตอรี่ ทำให้เกิดกระแสโจมตีครูปรีชาว่า มีส่วนร่วมในการสร้างเรื่องโกหกแย่งชิงสิทธิ์ครอบครองลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่หนึ่งจำนวน 30 ล้านบาท รวมถึงมีกระแสข่าวว่า หนึ่งในทีมพยานของครูปรีชากลับคำให้การและรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ
โดยในเรื่องนี้ครูปรีชากล่าวด้วยสีหน้าสดชื่นแจ่มใสว่า ตนไม่ทราบถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าในตอนนี้สถานการณ์ยังคงปกติ ตนยังคงทำหน้าที่สอนหนังสือที่โรงเรียนตามเดิมไม่ได้หนีหายไปไหน ส่วนเรื่องที่ตลาดเรดซิตี้ ก็เป็นเพียงการจำลองเหตุการณ์วันที่ตนไปซื้อลอตเตอรี่เท่านั้น ไม่ได้เป็นการทำแผนรับสารภาพแต่อย่างใด ส่วนกระแสข่าวในโลกออนไลน์ที่มีผู้คนมาโจมตีตนเป็นจำนวนมากนั้น ตนไม่ได้ให้ความสำคัญและไม่ใส่ใจกับกระแสในโลกออนไลน์ เพราะผู้ที่จะตัดสินถูกผิดก็คือศาลเท่านั้น
“ความจริงก็คือความจริง ผมเป็นเจ้าของเป็นผู้ซื้อล็อตเตอรี่ฉบับที่ถูกรางวัลมาจริง จึงไม่ต้องกลัว และเป็นกังวลกับกระแสในโลกออนไลน์ จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้หนักใจกับหลักฐานที่ฝ่ายตรงข้ามนำออกมาเสนอในโลกออนไลน์ เพราะผมมั่นใจว่ามีหลักฐานพยานที่จะพิสูจน์ความจริงในชั้นศาลได้อย่างแน่นอน สุดท้ายอยากฝากถึงผู้ที่ติดตามข่าวในโลกออนไลน์ และตามสื่อต่างๆว่าควรจะเสพสื่ออย่างมีสติ ไม่ควรด่วนตัดสินว่าผมเป็นคนผิดควรจะเชื่อในพยานหลักฐานที่พิสูจน์ความจริง ไม่ใช่เชื่อตามกระแสของสังคมเพียงอย่างเดียว” ครูปรีชา กล่าว
