ผกก.สน.ทองหล่อ ยันชุดสืบทองหล่อ ตรวจร้านทำเล็บ ‘ดิว อริสรา’ เป็นการทำหน้าที่ตามปกติ ย้ำไม่มีข้อมูล รองผกก.ในโรงพัก เป็นหุ้นส่วนผับ ‘เบนซ์ เดม่อน’

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้ตรวจสอบไปยังฝ่ายสืบสวน ทราบว่าในวันดังกล่าวมีตำรวจ ยศ ส.ต.ท.สังกัดฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ เข้าไปตรวจภายในร้านนี้จริง แต่เป็นการตรวจตามปกติ เพื่อหาสิ่งผิดกฎหมาย , บุคคลต่างด้าว หรือป้องกันอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้น

อ่านข่าว เปิดคลิปฟางเส้นสุดท้าย ดิว อริสรา เจอจนท.บุกป่วนร้าน แฉตร.หุ้นส่วน เบนซ์

โดยการตรวจของเจ้าหน้าที่นั้นจะมีทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ซึ่งในวันดังกล่าวตำรวจที่เข้าไปตรวจได้แสดงตัวอย่างสุภาพ แสดงบัตรประจำตัว รวมถึงให้ทางผู้ดูแลร้านถ่ายภาพ เพื่อเป็นความบริสุทธิ์ใจในการทำงาน ซึ่งการตรวจครั้งนี้ก็เป็นการตรวจทุกร้านที่อยู่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะร้านทำเล็บแห่งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็มาทราบภายหลังว่าร้านดังกล่าวเป็นของ ดิว อริสรา หลังจากที่เป็นกระแสข่าวไปแล้ว

พ.ต.อ.พันษา กล่าวต่อว่า จากการได้รับรายงานจาก รองผู้กำกับฝ่ายสืบสวน และ สารวัตรฝ่ายสืบสวน ทราบว่า ผลจากการตรวจนั้น ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามกรณีที่มีการระบุว่ามีตำรวจระดับรอง ผกก.เป็นหุ้นส่วนสถานบันเทิงร่วมกับ เบนซ์ เดม่อน นั้นยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้

ส่วนจะมีการรู้จักเป็นการส่วนตัวหรือไม่นั้นตนก็ไม่ทราบได้ เพราะเพิ่งย้ายเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่นาน แต่หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำผิดกฎหมาย ก็สามารถแจ้งมาได้ทันที พร้อมจะดำเนินการตามอำนาจการปกครอง

พ.ต.อ.พันษา กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจของเจ้าหน้าที่นั้น แต่ละฝ่ายในโรงพักจะกำหนดแผนการทำงานขึ้นมาตามผลัด หรือตามสถานการณ์ ไม่ได้มีการตรวจเป็นประจำทุกเดือน เช่น ฝ่ายสืบสวนก็จะกำหนดแผนการตรวจขึ้นมาในพื้นที่และตรวจตราตามปกติ

ฝ่ายป้องกันและปราบปรามในเครื่องแบบก็มีการวางแผนตามช่วงเวลาในการออกตรวจ ทั้งลาดตระเวน ตรวจตู้แดง หรือในช่วงวาเลนไทน์ก็มีแผนการตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ หรือฝ่ายจราจรก็จะกำหนดแผนในการตรวจตราตามเวลาในชั่วโมงเร่งด่วน ทั้งนี้การกำหนดกรอบแผนการตรวจจึงไม่ตายตัวว่าจะต้องตรวจเป็นประจำทุกเดือน

พ.ต.อ.พันษา กล่าวต่อว่า ภายหลังจากเป็นประเด็นข่าวจึงอยากชี้แจงว่า ตำรวจได้ทำตามหน้าที่ในการป้องกันเหตุอาชญากรรมตามปกติ ไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง หรือ ต้องการเป็นข้อพิพาทกับทางคู่กรณีแต่อย่างใด ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย แต่มีการกระทำความผิด ไม่ถูกต้องตามหน้าที่ หรือ ไม่ถูกกฎหมาย หากมีพยานหลักฐานสามารถนำมาให้ตนได้ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็พร้อมที่จะดำเนินการ ไม่มีละเว้นอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน