นิ่ม-พุด เปิดใจหลังถูกตำรวจพาเข้าเครื่องจับเท็จครั้งแรก ยอมรับรู้สึกกังวล เผย โดนคำถามแทงใจ บางช่วงเส้นกราฟขึ้นสูง วอน เอา น้องต่อ มาคืน

สังคมยังคงติดตามประเด็นการหายตัวของ น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน ที่หายตัวไปอย่างเป็นปริศนาจากบ้านพักในพื้นที่ จ.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบปากคำพยานแวดล้อมจำนวนมาก รวมถึงมีการนำตัว นายพุด และ น.ส.นิ่ม พ่อแม่ของน้องต่อไปเข้าเครื่องจับเท็จ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

นิ่ม-พุด เปิดใจหลังถูกตำรวจพาเข้าเครื่องจับเท็จครั้งแรก ยอมรับรู้สึกกังวล

นิ่ม-พุด เปิดใจหลังถูกตำรวจพาเข้าเครื่องจับเท็จครั้งแรก ยอมรับรู้สึกกังวล

ล่าสุดวันที่ 18 ก.พ.2566 น.ส.นิ่ม กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมากลับมาดึกมาก ตำรวจพาไปเข้าเครื่องจับเท็จ โดยมีการตั้งคำถามว่า เราเห็นชายเสื้อเหลืองจริงหรือไม่ เราก็ตอบไปว่า เห็นจริง คำถามจะคล้ายกับตำรวจที่สอบปากคำ ขณะที่เข้าเครื่องจับเท็จก็มีความกังวลอยู่บ้างแต่ไม่ถึงกับเครียดเลย

น.ส.นิ่ม กล่าวต่อว่า ตนเข้าเครื่องจับเท็จเวลาประมาณ 18.00 น. กว่าจะออกมาก็เกือบเวลา 20.00 น. ทั้งหมดมีประมาณ 8 คำถามเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ น้องต่อ หรือไม่ เขาให้เราตอบว่า “ไม่” กับ “ใช่” แค่นั้น เราก็ยืนยันคำเดิม ส่วนเรื่องผลตรวจดีเอ็นเอก็คิดว่าถึงจะออกมาเป็นลูกใครเขาก็ยังเป็นลูกของตน มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก

น.ส.นิ่ม กล่าวต่อว่า ตนกับพุดยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องลูก และไม่เคยมีความสงสัยว่าไม่ใช่ลูกพุด ส่วนเรื่องผลที่ออกมาเป็นแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าพุดจะรับได้หรือไม่ ส่วนพุดก็คิดมาตลอดว่าน้องต่อคือลูก ส่วนตัวเรามั่นใจว่าเป็นลูกพุด แต่เมื่อผลออกมาว่าเป็นลูกลุงแจ้ก็ต้องยอมรับ มีความกดดันเพราะมีคำถามในหัวหลายหลายเรื่องว่า ทำไมถึงมั่นใจว่าเป็นลูกพุด ต้องดูสิ่งที่เกิดขึ้นว่าพุดจะยอมรับได้หรือเปล่า

น.ส.นิ่ม กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องประเด็นของลุงแจ้ ที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตประจำวันปกติ เพราะลุงแจ้เอ็นดูน้องต่อ ประเด็นที่ว่าต้องมาลักขโมย ยังเชื่อว่าเป็นประเด็นที่มีคนมาอุ้มเด็กไป อยากให้เอาลูกมาคืน ให้บอกตำรวจหรือว่าเอาน้องวางตรงไหนก็ได้ที่มีคนเห็น ยังยืนยันคำเดิม มีคนเอาน้องไปถ้าเขาเอาไปเลี้ยงจริงน้องต่อก็น่าจะยังมีชีวิตอยู่

ต่อมาเวลา 09.00 น. นายพุด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปเข้าเครื่องจับเท็จเขาก็จะพูดคุยกับเราก่อน ถามวนไปวนมา บางช่วงเครื่องจับเท็จเส้นกราฟก็ขึ้นสูง ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเพราะว่าเราไม่ได้เป็นคนทำ บางคำถามก็มีแทงใจ โดย 1 คำถามจะถามถึง 3 ครั้ง ระหว่างที่สอบถามจะใส่เครื่องวัดความดันตลอดเวลา ระหว่างที่เข้าเครื่องจับเท็จ ตนแยกกันอยู่คนละชั้นกับน.ส.นิ่ม เมื่อวานไม่รู้ว่ามีลุงแจ้ไปด้วยหรือไม่ แต่ไปกัน 3 คนมีตน น.ส.นิ่ม และลุงวี

นายพุด กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องผลตรวจดีเอ็นเอออกมาว่า เป็นลูกลุงแจ้ไม่ใช่ตนนั้น ยังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้อยากเจอน้องต่อมากกว่า และอยากตรวจดีเอ็นเอที่ตัวน้องต่ออีกครั้ง อยากให้คนที่เอาน้องต่อไปเอามาคืน โทรมาที่ตนหรือผู้ใหญ่บ้านก็ได้ ตอนนี้สงสัยเส้นทางกล้องวงจรปิดเส้นกำแพงแสนที่ได้มาใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีความกังวลอะไร มีแต่ความเครียดเรื่องลูกอยู่ รู้สึกเหนื่อยแต่เพื่อลูกเราก็ต้องทำ หลังจากผลตรวจออก ยังไม่ได้เจอลุงแจ้ ปกติก็ไม่ค่อยคุยกันอยู่แล้วไม่ได้สนิทด้วย

อ่านข่าว : พ่อ-แม่ น้องต่อ ไม่เชื่อผลตรวจดีเอ็นเอลูกตรงลุงแจ้ มั่นใจเป็นลูกตัวเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน