เลือกตั้ง 66 : ครม.รับทราบ ไทม์ไลน์รัฐบาลรักษาการยาว 4 เดือนครึ่ง หลังประกาศยุบสภา คาดต้นพ.ค.มีเลือกตั้ง ประกาศผลเดือนก.ค. พร้อมมีครม.ชุดใหม่เดือนส.ค.

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุม ครม. ได้รับทราบคำชี้แจงของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เรื่องกรอบเวลาการเลือกตั้ง ไปจนถึงรัฐบาลชุดนี้จะต้องรักษาการจนมีรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่ เบื้องต้นสภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระวันที่ 23 มี.ค.นี้ ตามรัฐธรรมนูญ หากสภาครบวาระให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน นับจากวันที่สภาสิ้นอายุ แต่หากกรณียุบสภา จะต้องกำหนดวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน

ไม่ว่าสภาครบวาระหรือยุบสภา จะเกิดขึ้นในเดือนมี.ค. ซึ่งคาดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในต้นเดือนพ.ค. และประกาศผลการเลือกตั้งได้ในเดือนก.ค. และขั้นตอนต่อไปจะเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเปิดสภาผู้แทนราษฎร และตั้งประธานสภา จะเกิดขึ้นกลางเดือนก.ค.

ขั้นตอนต่อไปจะเลือกนายกรัฐมนตรี และโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ที่คาดว่าจะมีขึ้นในปลายเดือนก.ค. จากนั้นจะจัดตั้งคณะรัฐมนตรี และครม.ชุดใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณตนในต้นเดือนส.ค. ดังนั้น ถ้าดูตามกรอบเวลา ไม่ว่าสภาครบวาระหรือยุบสภา รัฐบาลชุดนี้จะยังรักษาการไปถึงต้นเดือน ส.ค.

ส่วนวุฒิสภา ยังมีอยู่แต่จะประชุมไม่ได้ เว้นแต่จะพิจารณาตั้งองค์กรอิสระ ส่วนร่างพระราชบัญญัติต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ในสภา ทั้ง 2 สภามีอยู่ประมาณ 29 ฉบับจะตกไปทันที และหลังเลือกตั้ง หากรัฐบาลจะนำกลับมาพิจารณานั้น ก็ทำได้ แต่ต้องนำขึ้นมาพิจารณาภายใน 60 วันนับแต่เปิดสภาชุดใหม่ ส่วนกฎหมายหรือร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่กราบบังคมทูลเกล้าฯ ไปแล้ว มี 11 ฉบับ ยังดำเนินการต่อไปตามปกติ

นายอนุชา กล่าวว่า หากมีความจำเป็นเร่งด่วน รัฐบาลสามารถออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ได้ตามนั้น ส่วนพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.) ที่เป็นกฎกระทรวงต่างๆ ยังออกได้ตามปกติ ทั้งนี้ เมื่อครม.พ้นตำแหน่ง แต่ยังปฏิบัติหน้าที่รักษาการจนกว่าครม.ชุดใหม่จะปฏิญาณตน เรื่องของเอกสาร หรือรายงานข่าวไม่จำเป็นต้องวงเล็บว่ารักษาการ

ส่วนข้าราชการการเมืองทุกตำแหน่งยังปฏิบัติหน้าที่ได้ และจะพ้นตำแหน่งในวันเดียวกับครม.พ้น กรณีที่มีการรักษาการอยู่แล้วมีรัฐมนตรีลาออก ก็จะไม่กระทบกับรัฐมนตรีทั้งหมด สามารถประชุมได้ และนายกฯ ยังปรับครม.ได้ ส่วนการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ทางครม.จะต้องดำเนินการภายใน 60 วันนับตั้งแต่มีครม.ชุดใหม่ถวายสัตย์ไปแล้ว

นายอนุชา กล่าวอีกว่า ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรี จะต้องอยู่ในเงื่อนไข 1.ต้องไม่อนุมัติงานหรือโครงการที่สร้างความผูกพันกับ ครม.ใหม่ ยกเว้นเป็นเรื่องที่อยู่ในงบประมาณประจำปี 2.จะต้องไม่แต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการ พนักงาน หรือให้พ้นตำแหน่ง เว้นแต่ได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

3.ไม่อนุมัติใช้งบกลาง เว้นแต่จะได้รับการเห็นชอบจาก กกต. และ 4.ไม่ใช้ทรัพยากร บุคลากรกระทำการที่มีผลต่อการเลือกตั้ง ไม่ฝ่าฝืนระเบียบง กกต. เช่น ไม่ใช้ตำแหน่งเอาเปรียบพรรคอื่น ไม่จัดโครงการที่เอาเปรียบ ไม่มีการประชุมครม.สัญจร ไม่จัดประชุมที่ใช้งบของรัฐ เว้นแต่จะตัดตามวาระปกติอยู่แล้ว ไม่โอนงบประมาณเพื่อทำในลักษณะแจกจ่ายให้กับประชาชน และไม่ใช้ทรัพยากร หรือบุลคลของรัฐเอาเปรียบพรรคอื่นๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน