เดือนหน้ายังหนัก! เหนือวิกฤตจมฝุ่น PM2.5 จังหวัดตากอ่วมสุดในไทย 17 จังหวัด มีแนวโน้มขึ้นสูง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เกินมาตรฐาน 2 พื้นที่
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ก.พ.66 ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ทั่วประเทศ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพดีมากถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 พบค่าฝุ่นระหว่าง 15-100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) พบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานรวม 25 พื้นที่ทั่วประเทศ
กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตรวจวัดค่าฝุ่นระหว่าง 27- 55 มคก./ลบ.ม. พบเกินมาตรฐาน 2 พื้นที่ ได้แก่ ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ และต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ภาคเหนือ ตรวจวัดค่าฝุ่นระหว่าง 29 – 100 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 22 พื้นที่ ได้แก่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่, ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน, ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง
จ.แม่ฮ่องสอน, ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน, ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน, ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน, ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน, ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่, ต.น้ำรึม อ.เมือง จ.ตาก, ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก, ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์, ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร และ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
โดยเป็นพื้นที่สีแดง (กระทบต่อสุขภาพ) 2 พื้นที่ ได้แก่ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ค่าฝุ่น 100 มคก./ลบ.ม. และต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย ค่าฝุ่น 95 มคก./ลบ.ม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดค่าฝุ่นระหว่าง 24 – 52 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 1 พื้นที่ ที่บริเวณต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย
สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ค่าฝุ่นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่
กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 1-4 มี.ค. 66 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้ในบางพื้นที่ พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูง ในพื้นที่ภาคเหนือทั้งตอนบนและล่างระหว่างวันที่ 28 ก.พ. และ 1-6 มี.ค. 66 ทั้งนี้ในช่วงต้นเดือนมี.ค.66 เป็นช่วงที่ควรเฝ้าระวังทั้ง 2 พื้นที่
ประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์
สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้สามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอพพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK
