เมื่อเวลา 17.17 น. วันที่ 16 ก.พ. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นองค์ประธานเปิดงาน “เทศกาลตรุษจีนเยาวราช ปี 2561” ภายใต้แนวคิด “ร่ำรวย โชคดี ปีหมาทอง” ซึ่งสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ร่วมกับสภาวัฒนธรรมเขตสัมพันธวงศ์ กลุ่มประชาคม นักธุรกิจ ภาคเอกชน และประชาชนในท้องถิ่น จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 16-17 ก.พ.

 

 

โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายหลู่ย์เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการจัดงาน พร้อมด้วยพสกนิกรชาวไทยเชื้อสายจีนเฝ้ารับเสด็จฯ เนืองแน่น ณ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ถนนเยาวราช กรุงเทพฯ

 

ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฉลองพระองค์ชุดคอจีนแขนกระบอกสีแดง ด้านพระอุระซ้ายปักลายพระหัตถ์ภาษาจีน อ่านว่า “ซิงว่าง” ความหมายว่า “ร่ำรวย รุ่งเรือง” ในเทศกาลตรุษจีน ปีจอ พ.ศ. 2561 ประดับบนภาพฝีพระหัตถ์ “สุนัขหูตั้ง” หน้าตาเบิกบาน เฉลียวฉลาด ใฝ่รู้ใฝ่เรียน พร้อมทั้งอัญเชิญพระนามาภิไธย “สิรินธร” ภาษาจีน ปักด้วยไหมสีทองพิเศษ

 

ทรงเสด็จฯ ยังพระอุโบสถวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธทศพลญาน จากนั้นทรงวางพวงมาลาถวายสักการะรูปเหมือนพระวิสุทธาธิบดี อดีตเจ้าอาวาส ทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้าแล้วถวายสมเด็จพระพุฒาจารย์ เสด็จฯ ไปทรงโปรยดอกมะลิพระผงสมเด็จพระพุฒาจารย์ จากนั้นทรงเททองหล่อนำฤกษ์พระกริ่งเทพมังกรทอง รุ่นหยินหยางจักรพรรดิ (เยาวราช)

โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกเป็นประธานจัดสร้าง และพระพรหมมังคลาจารย์ (เจ้าคุณธงชัย) เป็นประธานดำเนินงานการจัดสร้างในครั้งนี้ และเสด็จฯ ขึ้นที่ชั้น 4 ทรงนมัสการพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร พระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา ทอดพระเนตรการแสดงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและการแสดงจากประเทศไทย เสด็จฯ ไปยกคันโยกเปิดงานตรุษจีนเยาวราช ปี 2561 แล้วประทับรถรางไปนมัสการพระอวโลกิเตศวร ณ โรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ

 

โอกาสนี้ นายชวลิต กาญจนชัยภูมิ ประธานกรรมการ โรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ นำคณะกรรมการมูลนิธิเข้าเฝ้าฯ พร้อมทูลเกล้าฯ ถวายสุนัขทองคำ สัญลักษณ์มงคลปีนักษัตรปีจอ ทำจากทองคำ 99.99% โดยสั่งทำจากฮ่องกง พร้อมถวายเงินสดอีก 1 ล้านบาทด้วย

ต่อมา เสด็จฯ ทอดพระเนตรบูธต่างๆ อาทิ ร้านภูฟ้า ร้านมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาฯ ร้านมูลนิธิเจ้าฟ้าสิรินธร ร้านมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ร้านภัทรพัฒน์ ร้านมูลนิธิรามาธิบดี และบูธต่างๆ โดยที่บูธสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ทูลเกล้าฯ ถวายเรือสำเภาทองคำ

 

นายแสงชัย โสตถิวรกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรือสำเภาทองคำที่ทูลเกล้าฯ ถวายสื่อถึงสัญญลักษณ์ของชาวแต้จิ๋วที่เดินทางมาจากซัวเถาเมื่อกว่า 100 ปีก่อน มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในเมืองไทย ส่วนใหญ่เป็นสำเภาสีแดง จะอยู่ในกรุงเทพฯ มหาชัย และที่ท่าฉลอม ซึ่งถือเป็นลูกมังกร

โอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระอักษรพู่กันจีน คำว่า “ไท กก เตี๋ย จิ๋ว ฮ่วย ก๋วง แปลว่า “สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ฉลองครบรอบ 80 ปี ปี 2018 เดือน 4 วันที่ 29”

จากนั้นเสด็จฯ ยังบูธอาหาร หน้าภัตตาคารหูฉลามไชน่าทาวน์ สกาล่า สาขา 2 ในการนี้ ทอดพระเนตรอาหารที่พ่อครัวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนปรุงถวาย ทั้งหมด 7 ชนิด ประกอบด้วยอาหารคาว 3 ชนิด ได้แก่ ซุปเห็ดมัตสึตาเกะกับเนื้อปลา หมูสามชั้นตุ๋นสมุนไพร ผัดผักรวมและหน่อไม้ และของหวาน 4 ชนิด ได้แก่ เค้กมังกรและฟินิกซ์ บิสกิตสาหร่าย คุ้กกี้ถั่วเขียว คุ้กกี้ต้นหอม

ทั้งนี้ เชฟประเทศจีนที่มาปรุงอาหารเสวยมีทั้งหมด 18 คน จากเมืองหลิงปง มณฑลจื้อเจียง เมืองทางตอนใต้ของจีน

นายโหล เฉินปิง หัวหน้าเชฟจากประเทศจีน กล่าวว่าอาหารที่ปรุงถวายฯครั้งนี้ ทุกเมนูมีความพิเศษ อาทิ ซุปเห็ดมัตสึตาเกะกับเนื้อปลา เป็นอาหารที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เลี้ยงรับรองผู้นำประเทศที่มาร่วมประชุม จี 20 ประเทศจีนเมื่อปี 2012 ส่วนหมูสามชั้นตุ๋นสมุนไพรเป็นอาหารที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ คนจีนจะได้กินเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีนเท่านั้น ส่วนผัดผักรวมและหน่อไม้ประดับด้วยเผือก ซึ่งมีคำคล้องจองที่หมายถึงความเจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จทุกอย่าง

“ผมรู้จักสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งแต่เด็กๆ เนื่องจากเห็นพระองค์เสด็จฯ เยือนประเทศจีนบ่อยครั้ง การได้มาปรุงอาหารจีนถวายพระองค์นอกจากสืบทอดอาหารจีนแล้ว ได้ใส่ความตั้งใจและความรักต่อพระองค์ลงไปในอาหารด้วย ส่วนตัวรักและเคารพนายโจว เอินไหล อดีตนายกรัฐมนตรีของจีนอย่างไร ผมก็รักและเคารพสมเด็จพระเทพฯ เช่นนั้น” นายโหล เฉินปิง กล่าว

จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ห้างขายยาเซี้ยงเฮงฮั่วกี่ และธนาคารกสิกรไทย (สาขาเยาวราช) แล้วจึงเสด็จฯ กลับ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเส้นทางเสด็จฯ พสกนิกรสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงซึ่งเป็นสีมงคลในเทศกาลตรุษจีนเฝ้ารับเสด็จฯ จำนวนมาก พร้อมเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องตลอดเส้นทาง ขณะที่บรรยากาศถนนเยาวราชคึกคักไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยเชื้อสายจีน และประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มาท่องเที่ยวและจับจ่ายจำนวนมาก

ภายในงานจัดกิจกรรมมากมาย อาทิ การแสดงมายากลเปลี่ยนหน้ากากจีน การแสดงดนตรีด้วยเครื่องดนตรีจีนกู่เจิ้ง เอ้อหู ขลุ่ย ขิม การแสดงกายกรรมต่อตัว ไร้กระดูก การแสดงรำพัด ร่วมด้วยการจัดแสดงนิทรรศการและการแสดงเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม ไทย-จีน แสดงออกถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน
//////////////////////

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน