จับแล้ว ที่แท้สาวเพื่อนสนิท ลวงฆ่าชิงทอง เจ้าแม่เงินกู้ ก่อนโยนทิ้งน้ำที่ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร แฉพฤติกรรมเหี้ยม ลงมือต่อหน้าลูกวัย 14 ปี
จากกรณีพบศพ น.ส.ชฎาทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ทำธุรกิจเกี่ยวกับเงินกู้ ลอยติดโขดหิน กลางลำน้ำ บริเวณบ้านตรัง ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร สภาพมีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะ แขน และตามลำตัวนับ 10 แผลจากการถูกของแข็ง ถูกฟันและแทง หลังหายตัวออกจากบ้านไป 3 วัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
จับแล้ว ที่แท้สาวเพื่อนสนิท ลวงฆ่าชิงทอง เจ้าแม่เงินกู้ ก่อนโยนทิ้งน้ำที่ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 มี.ค.2566 ที่สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ ศรีสุวรรณ์ ผกก.สภ.พะโต๊ะ พร้อมกำลังเจ้าที่ชุดสอบสวนและชุดสืบสวน ควบคุมตัว นางบุญพา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี มาชี้จุดก่อเหตุที่บ้านเช่าของตนเองซึ่งใช้เป็นสถานที่ลวง น.ส.ชฎาทิพย์ มาทำร้ายทุบตีและฟันจนแน่นิ่ง
ก่อนนำร่างขึ้นรถกระบะของตนเองแล้วขับรถออกมาจากบ้านเช่ามุ่งหน้ามายังสะพานบ้านตรังพัฒนา แล้วลากร่างของผู้ตายลงจากรถ ก่อนจะผลักร่างลอดราวสะพานเพื่อทิ้งศพดังกล่าว เบื้องต้นผู้ก่อเหตุสารภาพเพียงว่า ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วนสาเหตุผู้ก่อเหตุยังไม่เปิดเผยแต่อย่างใด ๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ว่าจะก่อเหตุเพียงลำพัง และจะสอบสวนหารายละเอียดและมูลเหตุในการก่อคดีครั้งนี้ต่อไป
นางบุญพา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้ต้องหา
น.ส.บุญมี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจกับการกระทำของน้องสาวเป็นอย่างมาก และไม่คาดคิดมาก่อนว่าน้องสาวจะก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนสนิทกัน ไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด และมักจะไปเล่นการพนันด้วยกันอยู่เสมอ ที่ผ่านมาน้องสาวไม่เคยพูดหรือเล่าให้ฟังว่ามีปัญหาหรือมีเรื่องผิดใจกับผู้เสียชีวิตมาก่อน
น.ส.บุญมี กล่าวต่อว่า จากเหตุการ์ที่เกิดขึ้นนั้น ถึงแม้ว่าน้องสาวจะปฏิเสธในเบื้องต้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็มีหลักฐานแน่นหนาพอสมควร ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งในตอนนี้สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากที่สุดคือหลานวัย 14 ปี เพราะในช่วงที่น้องสาวก่อเหตุทำร้ายร่างกายน.ส.ชฎาทิพย์ จนเสียชีวิตนั้นได้ก่อเหตุต่อหน้าลูกสาว
น.ส.บุญมี กล่าวอีกว่า ตนเป็นห่วงสภาพจิตใจของหลาน ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุนั้น ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับน้องสาวและหลาน ซึ่งหลังจากนี้หากเสร็จเรื่องทางคดีเรียบร้อยแล้วนั้นก็คงให้พ่อของเด็กมารับไปดูแลต่อ
