กกร. จี้ กกพ. ทบทวน ค่าไฟ เดือนพ.ค.-ส.ค.2566 หวังชงรัฐบาลใหม่กดลงต่ำกว่า 4 บาท/หน่วย ห่วงถ่วงความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

วันที่ 19 เม.ย.2566 นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) กล่าวว่า ส.อ.ท.มีข้อเสนอให้ทบทวนมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่เห็นชอบให้ปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 ลงต่ำกว่า 4.40 บาท/หน่วย จาก 4.77 บาท/หน่วย เป็นอัตราเดียวกันทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม

นายวิวรรธน์ กล่าวต่อว่า โดยขณะนี้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน คือ ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย หรือ กกร. อยู่ระหว่างเร่งจัดตั้งทีมหารือด้านพลังงานไฟฟ้าร่วมระหว่างรัฐและเอกชน รวมถึงประสานข้อมูลจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อแลกเปลี่ยนและเสนอความคิดเห็นกันอย่างใกล้ชิด เพราะมีความกังวลว่าค่าไฟที่สูงขึ้นมีผลต่อความสามารถการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะเทียบกับเวียดนามที่เริ่มเห็นว่าเกิดการเคลื่อนย้ายฐานการลงทุนเข้าไปมากขึ้น

“ในมุมมองของภาคเอกชน คาดหวังว่ายังมีแนวทางที่ค่าไฟฟ้าจะปรับลดลงได้อีก โดยปลายปีนี้มีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ เพราะแนวโน้มต้นทุนพลังงานค่าไฟฟ้ากำลังปรับตัวลงทุกชนิด ซึ่งทันทีที่ค่าไฟกลับมาจุดเดิมประมาณ 4 บาท/หน่วยหรือต่ำกว่า คิดว่าราคาสินค้าหลายชนิดที่ใช้พลังงานสูงจะปรับลดลงได้เช่นกัน ขณะเดียวกันภาคเอกชนจะพยายามเสนอเรื่องการสร้างสมดุลการใช้พลังงานจากแหล่งต่าง ๆ ส่งเสริมให้เลือกใช้พลังงานเชื้อเพลิงที่ถูกที่สุดในการผลิตไฟฟ้าแต่ละช่วงเวลาอย่างเหมาะสม”

นายวิวรรธน์ กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่นั้น ส.อ.ท. คาดหวังว่ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะช่วยสร้างความสามารถการแข่งขันที่ดีขึ้น ช่วยต่อยอดและสนับสนุนที่ยังมีข้อจำกัด เช่น ปรับกฎระเบียบภาครัฐ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจ การสนับสนุนงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาให้มากขึ้น เดินหน้าเปิดการเจรจาการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ) ต่าง ๆ ให้มีความต่อเนื่อง และหวังว่ากลไกการเงินของภาครัฐจะเดินหน้าใช้ได้ตามนโยบายการเมืองที่ประกาศ

อย่างไรก็ตาม ในการประชุม กกร.นัดถัดไป วันที่ 3 พ.ค.2566 จะรวบรวมข้อเสนอต่าง ๆ ของภาคเอกชน ส่งมอบให้รัฐบาลใหม่พิจารณาประกอบการดำเนินนโยบายให้มีความชัดเจนอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน