เพื่อนสนิทบวชหน้าไฟ กอดกันร้องไห้ พ่อแม่อิคคิว เปิดใจ มีหลักฐานไม่หมกเม็ดคดี แชทไม่เจตนาเหยียดจีจี้ เผยชอบยิงปืนทั้งคู่ น้องยันพี่ชายเป็นคนดีไม่ได้อารมณ์ร้อน

วันที่ 22 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันฌาปนกิจศพของอิคคิว นักเรียนเตรียมทหารภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา หรือ อิคคิว อายุ 17 ปี ที่ก่อเหตุ ยิงจีจี้-สุพิชชา ปรีดาเจริญ อายุ 20 ปี เน็ตไอดอลชื่อดังผู้เป็นแฟนสาวเสียชีวิต ก่อนยิงตัวตายตาม ทางครอบครัวได้เตรียมทำพิธีถวายพระเพล ก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจศพในเวลา 13.00 น.

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา พ่อแม่และน้องสาวของอิคคิว ได้เปิดใจให้ข้อมูลกับทีมข่าว เรื่องเล่าเช้านี้ เป็นที่แรก ทั้งพ่อและแม่ยืนกอดกันร้องไห้
คุณพ่อยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่มีเรื่องไม่ชอบมาพากล พ่อเป็นคนมาพบร่างของอิคคิวและจีจี้ หลังจากที่แม่ของจีจี้มาเจอก่อน โดยไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิดหรือซ่อนเร้นทั้งสิ้น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นพ่อและแม่ตามหาอิคคิว เพื่อที่จะให้กลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร แต่ติดต่อไม่ได้จนกระทั่งมีการขอความช่วยเหลือในการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือก็พบว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือทั้งของจีจี้และของอิคคิวอยู่ด้วยกันแต่ติดต่อไม่ได้

โดยเชื่อว่าทั้งสองคนน่าจะอยู่ด้วยกันแต่กลับติดต่อไม่ได้ทั้งพ่อแม่อิคคิว และพ่อแม่ของจีจี้ ก็ออกตามหาลูก โดยพูดคุยกันมาตลอด จนกระทั่งไปพบลูกเสียชีวิต และเป็นคนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมไปถึงมูลนิธิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเร่งดำเนินการจัดการนำศพไปเข้าสู่การชันสูตร ซึ่งตำรวจก็สอบปากคำ เก็บรายละเอียดที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ได้มีการหมกเม็ดปกปิดใดๆ

พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายอยู่ที่เกิดเหตุ แต่ที่ไม่เห็นภาพข่าวเพราะพื้นที่คอนโดเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล และทั้งครอบครัวของอิคคิวและครอบครัวของจีจี้ ต่างเสียใจไม่อยากให้เห็นภาพความสูญเสียของทั้งสองครอบครัว เพราะแค่นี้ก็เสียใจมากแล้ว

คุณพ่อของอิคคิวยังบอกว่า กรณีแชทที่เกิดขึ้นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า พ่อสอนลูกชายเรื่องการคบผู้หญิง เป็นการสอนในฐานะลูกผู้ชายที่พูดคุยกัน ไม่ได้มีเจตนาจะเหยียดหยามหรือให้ร้ายฝ่ายหญิง แต่เป็นการสอนแบบลูกผู้ชาย ซึ่งเมื่อวานข้อความที่ออกมาว่าแชทนี้เป็นแชทของปลอมนั้นเป็นการให้ข้อมูลที่สับสน เพราะพ่อแม่ก็อยู่ในช่วงที่เครียดและร้องไห้ตลอดเวลา

“พ่อและแม่ขอยืนยันว่าไม่เคยให้ลูกใช้ความรุนแรง หรือสอนให้ลูกใช้ความรุนแรง และให้ไปเรียนยิงปืน อิคคิวเป็นคนชอบในการยิงปืนและชอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับการต่อสู้ อยากให้สังคมมองว่าการที่ลูกชายชอบยิงปืนเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งของลูกผู้ชายไม่ใช่เป็นการใช้ความรุนแรงและครอบครัวไม่เคยสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง”

ซึ่งเมื่อวันที่ 16 เมษายน ลูกชายก็ไปซ้อมยิงปืนพร้อมกับจีจี้ ซึ่งฝ่ายหญิงก็ชอบในกิจกรรมยิงปืนเหมือนกัน

ด้านคุณแม่ให้ข้อมูลทั้งน้ำตาว่า แม่ไม่เคยเลี้ยงลูกให้เป็นคนใช้ความรุนแรงหรือทำร้ายร่างกายผู้หญิง ตั้งแต่ที่แม่รู้ว่าลูกชายพาจีจี้เข้ามาอยู่ที่บ้าน แม่ก็สอนลูกเกี่ยวกับการดูแลผู้หญิง รวมไปถึงเมื่อรู้ว่ามีการทำร้ายร่างกายก็เรียกลูกทั้งสองคนมาสอน และทางครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็รับรู้มาตลอด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม่เสียใจมาก ทางครอบครัวแม่จีจี้ก็เสียใจมากเช่นกัน

อยากขอร้องสื่อมวลชนว่า ของดทำข่าวเนื่องจากขอให้เป็นงานส่วนตัว เพราะการทำข่าว ภาพเหตุการณ์เหล่านี้ก็จะถูกฝังอยู่ในอินเตอร์เน็ตหรืออยู่ในข่าวทีวีต่างๆ เมื่อครอบครัวเปิดดูหรือกลับมาเห็น สภาพจิตใจของครอบครัวก็จะย่ำแย่ ตอนนี้สังคมพิพากษาครอบครัวของอิคคิวไปแล้ว ก็ขอยอมรับผิดกับทุกสิ่งและยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์

ด้านน้องสาวของอิคคิว ยืนยันว่าพี่ชายเป็นคนดีและไม่ได้เป็นคนที่อารมณ์ร้อน หรือชอบทำร้ายร่างกายผู้หญิง แต่การคบกันระหว่างพี่ชายกับพี่จีจี้ ก็เป็นเรื่องความรักของพี่สองคน ที่พ่อและแม่รับรู้และมารู้ภายหลังว่าเลิกกัน ทั้งสองฝ่ายก็ยินดีเพราะไม่อยากให้ทั้งสองคนมีปัญหาทะเลาะกันอีก แต่มารู้ทีหลังว่ากลับมาคบกันอีกครั้ง จนกระทั่งมาเสียชีวิตจึงอยากขอโทษสังคมขอโทษทุกคน

ทั้งนี้พ่อของอิคคิวยืนยันว่า หลังจากนี้ก็จะปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทุกอย่างหากพ่อต้องถูกดำเนินคดีในเรื่องของอาวุธปืนก็พร้อมจะยอมรับ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

ส่วนเรื่องการเยียวยาครอบครัวของฝ่ายหญิง ทางครอบครัวของอิคคิวยืนยันว่า จะเยียวยาให้เต็มที่และจะดูแล และแม้กระทั่งลูกทั้งสองฝ่ายเสียชีวิต ทุกวันนี้ก็ยังพูดคุยกันให้กำลังใจกัน วันนี้ขอส่งลูกชายไปสู่ภพภูมิที่ดี จึงไม่ขอให้ข้อมูลใดกับสื่อมวลชน และไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ

ส่วนบรรยากาศที่วัดเสนาสนาราม ราชวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีฌาปนกิจศพของน้องอิคคิว ที่บริเวณศาลาห้า ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล มีเพื่อนสนิทของอิคคิวได้โกนผมบวชหน้าไฟให้ 1 คน และบรรดาเพื่อนสนิทคนอื่นๆ ต่างมาร่วมงานด้วยความโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กอดกันร้องไห้ แต่ยังไม่พบเจอเพื่อนที่โรงเรียนเตรียมทหาร มาร่วมงานแต่อย่างใด โดยทางครอบครัว ร้องขอความเป็นส่วนตัวในการทำพิธีฌาปนกิจในครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปด้านใน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน