พ่อน้องจี้จี้ เผยเศร้ายังรับไม่ได้ เชื่อลูกสาวมาหาที่บ้าน ได้ยินเสียงร้องไห้ เผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังรับไม่ได้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
วันที่ 22 เม.ย.2566 พ่อของน้องจีจี้ ได้เปิดเผยถึงกรณีที่ไม่ได้ไปร่วมงานเผาศพของอิคคิวว่า เพราะไม่ได้ติดตามข่าว และไม่ทราบว่าเผาวันที่เท่าไหร่ เนื่องจากมีงานที่จะต้องดูแล ทางโน้นก็ต้องดูแลงานของเขา และเราก็ต้องดูแลงานของเรา มันเสียหายด้วยกันทั้งคู่แต่ความเสียหายนั้นเกิดขึ้น ว่าอยู่ที่เราเป็นผู้ถูกกระทำ แต่ตั้งแต่วันแรกแล้วผมมีพวงหรีดส่งไปแสดงความอาลัยให้ เพราะทางโน้นก็มีส่งพวงหรีดมาให้งานบ้านเรา ดูแล้วเขาเป็นผู้ใหญ่พอและไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนเรื่องความรับผิดชอบ ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันชัดเจน แต่หลังจากเสร็จงานน่าจะมีความคืบหน้า ทางโน้นก็เสียใจ ผมก็เสียใจเหมือนกัน วันนี้เข้าวันที่ 3 แล้ว ความรู้สึกของพ่อบอกตามตรงเหมือนเดิมว่ายังรับไม่ได้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เรื่องนี้มันหนักหนากับเรามากไป เป็นเพราะความผูกพันกับลูก ลูกห่างจากผมไปแค่ 2 ปีแต่กลับมาในสภาพนี้ผมบอกไม่ถูก สังคมทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปมาก ปัญหาที่เกิดคือสังคม ครอบครัวควรเข้ามาดูแลลูก
ลูกก็ควรให้ความเชื่อมั่นกับพ่อแม่ พ่อแม่รักลูกทุกคน ต้องคุยด้วยเหตุผล ผมให้ความอิสระกับลูกมากพอสมควร ถามถึงลางสังหรณ์ ลูกมาหาตั้งแต่วันแรกแล้ว เมื่อช่วงตอนตี 2 หลับเคลิ้มไปมีจิ้งจกเกาะแขนไม่ปล่อย จากนั้นได้มีเสียงร้องไห้ ตนเองก็ได้ลงมาจุดธูปที่หน้ารูปของอากงของจีจี้ ในขณะที่จุดธูปด้านหน้าอากง มีความรู้สึกว่ามีคนมากราบที่ขาและดึงกางเกงอย่างแรง รู้ว่าเป็นจีจี้มาดึงรั้งไว้
จากนั้นผมได้เข้าไปนอนก็ได้ยินเสียงคนร้องในห้องน้ำ เราก็ได้เดินไปเปิดไฟเสียงนั้นก็เงียบหายไป จึงได้ไปจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางให้จีจี้เข้ามาในบ้าน เรารู้ว่าจีจี้มาเพราะเราได้กลิ่น อย่างเช่นเมื่อเช้า พ่อลงมากินกาแฟอยู่ในครัว ก็ได้กลิ่นเหมือนคนเสียชีวิตโชยออกมา จึงได้บอกกับลูกว่าถ้ามันร้อนก็อยู่ที่นี่ได้ตลอด ผมไม่รู้ว่าผมจินตนาการไปเองหรือเปล่า
แต่ผมเคยมีประสบการณ์ตอนอากงของจีจี้เสียก็เป็นแบบนี้ ผมคิดว่าจีจี้ยังวนเวียนอยู่ เมื่อผมกลับบ้านก็จะเรียกลูกเข้าบ้านตลอด หวังว่าให้ลูกอยู่กับผม หรือถ้าอยากไปสวรรค์ก็ยินดี แต่ถ้ายังไม่อยากไปก็ให้มาอยู่บ้าน พ่อยินดีต้อนรับเสมอ พ่อรักและไม่กลัว ขอให้ลูกมาหา
