‘ออยศรี’ บุกถามทนายตั้มปมร่ำรวยผิดปกติ ทั้งที่ก่อนทำคดีหวย 30 ล้าน ยังบอกว่าไม่มีข้าวกิน วุ่นรปภ.ไม่ให้ขึ้นตึก แฉเคยช่วยงาน แต่กลับโดนใส่ร้ายเรื่องชู้สาว
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 3 พ.ค.66 ที่สำนักงานษิทราลอว์เฟิร์ม ออยศรี แอดมินแฟนเพจเฟซบุ๊ก “ออยศรีและผองเผือก” พร้อมผองเพื่อน คู่ปรับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เดินทางมารอร่วมฟังการแถลงข่าวชี้แจงประเด็นสังคมจากทนายตั้ม ที่สำนักงานวันนี้ โดยเจ้าตัวถูกฝ่ายอาคารของตึกสำนักงานมากีดกันไม่ให้ขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นความประสงค์ของสำนักงานษิทราลอว์เฟิร์ม ในฐานะผู้เช่าสถานที่
ออยศรี เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ตัวเองต้องการมาสอบถามทนายตั้ม เรื่องความร่ำรวยผิดปกติ ทั้งที่แม่ของทนายตั้ม เคยบอกว่าสมัยก่อนหน้าที่เจ้าตัวจะทำคดีหวย 30 ล้านบาทนั้น ยังไม่ค่อยจะมีข้าวกินเลย ผิดกับปัจจุบันที่มีทรัพย์สินราคาแพงมากมาย ทั้งรถทั้งนาฬิกา สวนทางกับงบการเงินของบริษัท เพราะตนมีข้อมูลว่า ยอดการเงิน 3 ปีที่ผ่านมาติดลบถึง 450,000 บาท
ตนยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ความร่ำรวยก้าวกระโดดของทนายตั้ม ยังมีลักษณะเหมือนกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ รวมถึงต้องการฝากถามทนายตั้มถึงว่า เชื่อหรือไม่ว่าเพื่อนที่ชื่อเก่ง เป็นพวกค้ายาเสพติด
จึงต้องฝากสื่อไปถามแทน อย่างไรก็ตามตน มีข้อสงสัยว่าทำไมตนกลับมีรายชื่อ ไม่ให้ขึ้นตึก ทั้งที่ตัวเองไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับอาคารนี้ และเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก
Advertisement
ออยศรี กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนกับเพื่อนๆ รวม 3 คน เคยเป็นจิตอาสาช่วยเหลืองานทนายตั้ม แต่กลับโดนใส่ร้ายเรื่องชู้สาวจนเสียหายในช่วงเวลาที่แม่ตนเองล้มป่วย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่มีภาพโพสต์ระหว่างตนกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง รวมถึงนายยงยุทธ คู่กรณีทนายตั้มนั้น มองว่าศัตรูของศัตรูคือมิตร
“ยืนยันนายชูวิทย์ไม่ได้ส่งตัวเองมา และภาพดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ดิฉันไปทานอาหารร่วมกันและเข้าสวัสดี พร้อมเปิดหลักฐานต่อกันและกันเท่านั้น ยืนยันว่าหากทนายตั้มเป็นคนไม่ดีจริง การกระทำของดิฉันนั้น จะเป็นประโยชน์กับประชาชน” ออยศรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ฝากขอบคุณทนายตั้มที่เคยส่งคนติดต่อหาตน และบอกว่าไม่เคยคิดจะฟ้องร้องตัวเอง แต่ต้องรอดูต่อไปว่าจะทำอย่างไร เพราะที่ผ่านมา ทั้งทนายตั้มจะหลอกใช้คนอื่น เช่นตนเองพอหมดประโยชน์หรือไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา ก็จะถูกโจมตีเช่นนี้
