เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ครูปรีชา ใคร่ครวญ คู่กรณีปมหวย 30 ล้าน พร้อมอดีตผู้แทนข้าราชการครู ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจง โดยครูปรีชา กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ตนต้องตั้งสติและสมาธิ โดยยืนอยู่บนความเป็นจริง อยากให้รอกระบวนการศาล เพื่อพิสูจน์ความจริง สิ่งต่างๆที่โดนกระแสโซเชียล ครูให้อภัยมาตลอด แต่เมื่อให้อภัยแล้วไม่รู้จักอภัย จึงอาจต้องเตรียมหารือกับทนาย
ครูปรีชากล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องคลิปเสียงนั้น ได้ตนได้ยินมีแค่ 4 คลิป แต่ละคลิปมีความยาว 3 นาที ซึ่งก็รู้สึกงงว่าทำไมถึงมีออกมาอีกหลายคลิป ไม่แน่ใจเป็นคลิปที่ตรวจสอบแล้วหรือไม่ ถ้าตรวจสอบแล้วระบุเป็นคลิปเสียงของตนก็พร้อมยอมรับ โดย 4 คลิปที่กองปราบให้ตนฟัง เป็นเสียงรายละเอียดการสั่งซื้อหวย การตามหาหวยที่หายไป โดยอยากถามว่าเวลาคนถูกหวยจะต้องไปบอกคนอื่นหรือไม่ เพราะทุกคนจะปิดหมด กลัวคนอื่นมาเข้ามายุ่ง
“ครูเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ถ้าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องครูจะไม่ทำ โดยครูไปแจ้งความคดีนี้ตั้งแต่ 1 พ.ย.2560 แต่ตำรวจบอกให้ไปหาให้ดีก่อน จากนั้นวันที่ 2 พ.ย.เดินทางมาแจ้งความ แล้ววันที่ 3 พ.ย.เดินทางไปตรวจสอบยังสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยกองสลากฯมีนิติกรดูแลความถูกต้อง จึงมีพยานหลักฐานที่เป็นประจักษ์ ก่อนระบุตัวบุคคลที่ไปขึ้นเงินคือร.ต.ท.จรูญ วิมล จากนั้นตำรวจเชิญร.ต.ท.จรูญมาพูดคุยที่โรงพัก กระทั่งเป็นคดีความ”
เมื่อถามถึงคลิปเสียงที่ระบุว่าครูปรีชาแบ่งเงินกับเจ๊บ้าบิ่นคนละ 15 ล้านบาท ครูปรีชากล่าวว่า คลิปดังกล่าวไม่ได้อยู่ใน 4 คลิปที่ตนรู้ โดยอยากถามใครเป็นคนปล่อยคลิปนี้ และหากหวย 30 ล้านเป็นของครูจริง ใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้ ถ้าฝ่ายครูผิดก็จะรับผิดชอบด้วยการติดคุก คดีนี้ต้องมี 1 คนติดคุก ถ้าครูติดคุกแสดงว่าครูก็ต้องเป็นคนไม่ดี แต่อยากให้คิดว่าทำไมตำรวจและกองสลากฯถึงรับเรื่องไปตรวจสอบ ทำไมศาลสั่งอายัดเงินไว้ เพราะครูมีความชัดเจนในเรื่องคดีอย่างมาก
เมื่อถามว่าถ้ากองปราบสรุปเป็นของร.ต.ท.จรูญจะยอมรับหรือไม่ ครูปรีชากล่าวว่า ตอนนี้กองปราบยังไม่สรุป ถ้าผลคดีออกมาอย่างไรก็ต้องไปต่อสู้ในศาล การที่ตำรวจสรุปยังไม่ใช่ เพราะต้องไปต่อสู้คดีในศาลอีก
