สาวเจ้าของ ผลิตภัณฑ์กลูต้า ควงทนายเดชา แถลงชี้แจงปมสาว19ตรวจเจอยาบ้าในเลือด จ่อชวดเข้าเรียนคณะเภสัชฯ มหาวิทยาลัยชื่อดัง จ่อฟ้องกลับแม่-ลูก เรียก50ล้าน ให้ข่าวทำธุรกิจเกือบพัง นำตัวอย่างทดสอบให้ดูจะๆ

เมื่อเวลา 16.30 วันที่ 30 พ.ค. 66 ที่ สำนักงาน Decha & Ibs ทนายคลายทุกข์ น.ส.อภิรมณ สุขสีทา กรรมการ บริษัทธันย์รดา 59 จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์กลูต้า (บำรุงผิว)ที่ตกเป็นข่าว เข้าพบทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีสาววัย 19 ปี ที่สอบติดคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังได้ แต่หลังจากไปตรวจร่างกายยัง รพ. แล้วปรากฏว่า แพทย์เจอสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ ทำให้ไม่สามารถออกใบรับรองการตรวจสอบสุขภาพได้ ทั้งที่ น.ส.บี ไม่เคยไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด แค่ซื้อยาผิวขาวมากิน

เพื่อชี้แจงต่อสื่อมวลลชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงแนวทางการดำเนินการทางกฎหมาย เนื่องจากข่าวที่นำเสนอออกไปทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพื่อความโปร่งใสต่อหน้าสื่อมวลชนด้วย

น.ส.อภิรมณ ระบุว่า ตนได้รับแจ้งจากแม่ของเด็กเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า ลูกสาวของตนได้กินกลูต้าของบริษัทของตน แล้วตรวจพบสารเสพติด พอตนได้รับทราบก็รีบสอบถามข้อเท็จจริงและแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าจะรีบตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตัวเอง ซึ่งทางแม่น้องบอกว่า ลูกของตนเป็นคนดีและไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อีกทั้งกำลังเข้ามหาวิทยาลัยแต่ผลตรวจร่างกายก่อนรายงานตัว จึงไม่สามารถเข้าเรียนได้ เลยขอถามตนว่าจะให้ความช่วยเหลือเยียวยา หรือรับผิดชอบอย่างใด

ตนก็ยืนยันว่า ตนเปิดขายกลูต้ามาเป็นระยะเวลาปีกว่าแล้ว ก็ไม่เคยปรากฎเจอปัญหาสารแปลกปลอมปนเปื้อนเหมือนเคสนี้ ดังนั้นจึงจะขอไปตรวจสอบกลูต้าของตนก่อนเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป ซึ่งทางแม่ก็กล่าวว่าจะนำกลูต้าไปตรวจสอบซ้ำเช่นกัน ทางตนก็ยินดี

ปรากฎว่าในวันถัดมา กลูต้าของตนก็ตกเป็นข่าวว่ามีสารเสพติดโดยการให้ข่าวของแม่ลูกคู่นี้ ทั้งที่คุยกันแล้วว่าจะนำผลิตภัณฑ์ของตนเองไปตรวจสอบก่อน ทำให้เกิดความเสียหายกับบริษัทตนเองอย่างมากและเสียชื่อเสียง อีกทั้งข่าวที่นำเสนอออกไปโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำให้หลายคนและเกิดข้อสงสัย จนส่งผลกระทบทำให้ลูกค้ายกเลิกออเดอร์ตนเองไปมากกว่า 50 ราย ซึ่งก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมสำหรับตนอย่างมากและทำให้ธุรกิจของตนได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์กลูต้าตน ได้รับการยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และใบรับรองจากโรงงานแล้วว่าไม่พบสารเสพติดหรือสารปนเปื้อนแต่อย่างใด อีกทั้งหลังเป็นข่าวก็นำส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อีกรอบเมื่อ 29 พ.ค. เพื่อความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้ขอชะลอการผลิตแล้ว

น.ส.อภิรมณยอมรับว่า พอทราบข่าวก็สติแตก กระทบกับธุรกิจตัวเองอย่างมาก ขอยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ตนเองปลอดภัย แต่หลังจากนี้คงต้องใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อป้องกันตัวเอง ธุรกิจของตนกำลังเติบโต แต่ข่าวที่ออกมาทำให้ธุรกิจเกือบพังทลาย แต่ยังให้โอกาสเจรจา ขอให้ติดต่อกลับมาพูดคุย เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมาเลย

ด้านทนายเดชาระบุว่า ตนได้รับมอบหมายให้เตรียมฟ้องดำเนินคดีในข้อหา ‘กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงของบริษัทตนเอง เสียชื่อเสียง แผนการตลาดธุรกิจต่าง ๆ’ และ ‘ ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และตาม พ.ร.บ.คอม ‘

รวมทั้งฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 50 ล้านกับแม่ลูกคู่นี้ โดยให้ไปพิสูจน์ความจริงที่ศาล ทั้งยังมองว่า แม่คู่กรณีนี้ยังคงให้ข่าวไม่หยุด ชัดเจนว่ามีเจตนาไขข่าวว่ากลูต้ามีสารเสพติด ถือว่ารุนแรงและทำให้บริษัทเสียหาย แม้ผลของลูกออกมาเป็นลบก็ยังไม่หยุด ดูแล้วไม่น่าจะเป็นการให้ข่าวด้วยความเป็นธรรมโดยไม่ตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ทั้งนี้ จะให้ระยะเวลาแม่ลูกติดต่อกลับมาสักระยะก่อน หากไม่รีบติดต่อกลับมาจะฟ้องศาลจังหวัดบุรีรัมย์ทันที

จากนั้น มีการสาธิตการทานกลูต้าเพื่อความบริสุทธิ์ปลอดภัย โดยให้ผู้บริโภคตัวอย่างซึ่งทานเป็นประจำมา 3 เดือน และทานครั้งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาตอนเที่ยงคืนของวันนี้มาแล้ว 2 เม็ด ซึ่งผู้บริโภครายนี้ทานให้ดูอีกรอบจำนวน 2 เม็ดต่อหน้าสื่อ หลังจากนั้นก็นำผงในแคปซูลยาไปตรวจ โดยนำชุดตรวจยาเสพติดจาก สน.โคกคราม มาใช้สาธิต

พบว่าจากการนำตัวอย่างน้ำละลายกลูต้า ชุดตรวจขึ้น 2 ขีดซึ่งแสดงผลว่า ไม่พบสารแอมเฟตามีนแต่อย่างใด ส่วนผลการตรวจปัสสาวะของตัวอย่างผู้บริโภครายนี้ พบว่าชุดตรวจขึ้น 2 ขีด ไม่พบสารเสพติดดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้จะนำผลตรวจไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.โคกครามต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน