ทนายรัชพล แจ้งความ ‘คิมห์-เรืองไกร’ ปมเอกสารหุ้น ITV เข้าข่ายแจ้งเท็จ-ปลอมเอกสาร ลั่นจะฟ้องกลับก็ไม่กลัว เพราะเป็นสิทธิ์ของพลเมืองที่พบเห็นสิ่งผิดปกติ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มิ.ย.66 ที่สน.ทุ่งสองห้อง นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง เข้าแจ้งความกับพ.ต.ต.อนุชิต ชาติชูเหลี่ยม สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายคิมห์ สิริทวีชัย และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรณีบันทึกการประชุมขัดแย้งกับคลิปวิดีโอ เข้าข่ายแจ้งความเท็จ ปลอมเอกสาร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบหากพบว่ากระทำผิดจริง ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายเอาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ

นายรัชพล กล่าวว่า เรื่องนี้มีคนจำนวนมากกล่าวถึงว่าเป็นการกระทำผิดในเรื่องของการปลอมแปลงเอกสาร และความผิดอีกหลายมาตรา จนเป็นข่าวอยู่ตามหน้าสื่อต่างๆ แต่ยังไม่มีผู้ใดเข้าดำเนินการแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ขอเป็นตัวแทนเข้าแจ้งความกล่าวโทษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี โดยพบพิรุธความผิดปกติอยู่ 3 ประการ

ประการแรก คือ คลิปภาพกับเอกสารมีข้อความบางส่วนไม่ตรงกัน ประการที่ 2 ตามที่เพจของคุณจตุรงค์ สุขเอียด ระบุว่าคลิปดังกล่าวได้ลบไฟล์ทิ้ง แต่ต้องตรวจสอบอีกครั้ง และ 3 คือนายคิมห์ ออกหนังสือให้ตรวจสอบ แต่จริงๆ แล้วตัวนายคิมห์เองต้องเป็นผู้ออกมาชี้แจง เพราะตัวนายคิมห์เป็นประธานในที่ประชุมและเอกสารก็เป็นคนเซ็นเอง ในส่วนนี้มองว่าน่าจะเป็นการถ่วงเวลา โดยออกเอกสารเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ และไม่ได้ระบุเวลาว่าเรื่องราวดังกล่าวจะตรวจสอบเสร็จเมื่อไหร่

นายรัชพลกล่าวว่า ส่วนนายเรืองไกรจะพูดอะไรก็ได้ ถึงแม้จะบอกว่าไม่ได้เป็นคนยื่นเอกสารการประชุมให้ กกต. แต่ความเป็นจริงไม่มีใครรู้ว่ายื่นหรือไม่ เพราะเอกสารอยู่ที่กกต. ซึ่งส่วนนี้ตำรวจสามารถเรียกเอกสารมาตรวจสอบได้ แต่หากยื่นจริงและพิสูจน์ได้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งยื่นเอกสารอันเป็นเท็จ สามารถดำเนินคดีได้ ในส่วนนี้ตำรวจต้องสืบสวนต่อไป ว่าเข้าข่ายกระทำการกระทำความผิดหรือไม่ ในส่วนที่บางคนอาจจะมองว่าเป็นกระบวนการการกลั่นแกล้ง เท่าที่ดูพยานหลักฐานในตอนนี้อาจจะยังไปไม่ถึง

นายรัชพล กล่าวว่า สำหรับนายเรืองไกร ที่ก่อนหน้านี้บอกว่าไม่ได้ไปยื่นเอกสารบันทึกการประชุมให้กับ กกต. เป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ว่ายื่นหรือไม่ยื่น อยากให้ตำรวจตรวจสอบว่ายื่นจริงหรือไม่ หากมีการยื่นจริง เป็นเจตนากลั่นแกล้งให้คนอื่นได้รับโทษหรือไม่ อยากให้ตำรวจตรวจสอบเช่นกัน

ส่วนความผิดที่มาแจ้งความในวันนี้ เป็นการแจ้งความเท็จ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 “ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่น หรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” หรือไม่ และอยากให้ตำรวจตรวจสอบว่าเอกสารบันทึกการประชุมเป็นเท็จหรือไม่ และเข้าข่ายความผิดผู้ที่ทำเอกสารปลอม จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายรัชพล กล่าวต่อว่า การนำกฎหมายมาใช้กลั่นแกล้งกัน หรือที่การพูดถึงคำว่านิติสงคราม มองว่าตัวกฎหมายก็อยู่ของมัน แต่คนทำผิดต่างหากคือคนที่มีจิตใจสกปรกมากกว่า และใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ทุกคนใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ แต่กฎหมายยังคงอยู่แบบนี้ ใครที่ทำผิดก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย








Advertisement

นายรัชพล กล่าวว่า ส่วนหลังจากนี้หากนายคิมห์ หรือนายเรืองไกรจะฟ้องกลับก็ไม่กลัว เพราะเป็นสิทธิ์ของพลเมืองที่พบเห็นสิ่งผิดปกติ และอยากให้มีการตรวจสอบ ส่วนที่ตนไม่ไปยื่นให้ กกต.ตรวจสอบ มองว่าเป็นการทำงานที่ล่าช้า เพราะหาก กกต.ตรวจสอบ พบความผิดก็ต้องมาแจ้งความที่สน. เช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน