เมื่อเวลา 15.25 น. วันที่ 31 ต.ค. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในฐานะองค์นายกกิติมศักดิ์ตลอดชีพ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก เสด็จมายังรถเคลื่อนที่ ของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย หน้ากรมศิลปากร ถนนหน้าพระธาตุ เพื่อทรงทอดไก่ประทานให้แก่พสกนิกรที่มาถวายบังคมถวายบังคมพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ
โดยมีทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ คอยอำนวยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มารอรับอาหารพระราชทาน และมายืนเฝ้ารอชื่นชมพระบารมีอย่างเนืองแน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงทอดไก่ประทานให้กับพสกนิกร ทรงแย้มพระสรวลและทรงมีพระปฎิสันถารกับประชาชนที่มารอคิวรับการประทานข้าวเหนียวไก่ทอดอย่างไม่ถือพระองค์ สร้างความปลื้มปีติให้ประชาชนที่มารอรับเสด็จ ต่างเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” อย่างกึกก้อง โดยวันนี้มีไก่ที่นำมาทอดทั้งหมด 1,200 กิโลกรัม พร้อมข้าวเหนียวจำนวนพอดีกับไก่
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงตรัสอย่างมีอารมณ์ขันกับทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ที่ห้ามประชาชนถ่ายภาพพระองค์ว่า อย่าไปจับแขนหรือไปห้ามเขาถ่ายรูปเดี๋ยวกล้องเขาจะสั่น รูปจะออกมาไม่สวย ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน คนถ่ายรูปอย่าไปห้ามเขา
ด้าน น.ส.อัษฏาวดี เส็นฤทธิ์ อายุ 37 ปี อาชีพข้าราชการครู ชาวจ.ตรัง กล่าวภายหลังรับอาหารพระราชทานว่า ระหว่างที่ยืนรอเข้าแถวนั้น ไม่คาดคิดมาก่อนว่าพระองค์ท่านจะรับเลือกให้ตนสามารถรัดคิวประชาชนคนอื่นได้ เพราะคิดว่าเราเป็นชาวมุสลิมก็ต้องเคารพกฎศาสนาอื่น แต่พระองค์ทรงให้ความสำคัญและมีความเป็นกันเองอย่างมาก จึงสร้างความปลาบปลื้มอย่างยิ่ง
น.ส.อัษฏาวดี กล่าวต่อว่า ตนเดินทางท้องสนามหลวงตั้งเมื่อเวลา 05.00 น. เพื่อรอเข้าถวายบังคมพระบรมศพ แม้ว่าจะได้เข้าไปภายในพระบรมมหาราชวังในช่วงเวลา 14.00 น. แต่ก็ไม่ย่อท้อเพราะตั้งใจแน่วแน่ว่า จะมากราบพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นครั้งสุดท้าย
“ดิฉันไม่เคยมีโอกาศได้เข้าเฝ้าฯในหลวงรัชกาลที่ 9 เลยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งนี้คือครั้งแรก และครั้งสุดท้ายแต่ก็รู้สึกภูมิใจแล้ว และจะยึดมั่นคำสอนของพระองค์ในเรื่องของการเป็นคนดี เป็นแม่พิมพ์ของชาติ และจะทำหน้าที่ของดิฉันให้ดีที่สุด” อาชีพข้าราชการครู กล่าว
