จับแล้ว 2 มือปืน วัย 24 ปี กระหน่ำยิงคู่อริเสียชีวิตภายในรถกระบะ หลังกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงกลางเมืองเพชรบุรี เปิดปมดวนปืนสนั่น อ้างผู้ตายเริ่มก่อน

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 8 ก.ค.2566 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และ พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี ร่วมแถลงจับกุม นายอนุ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี และ นายทวี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิง นายสุริโย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี เสียชีวิตคารถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ ทะเบียน กธ8923 เพชรบุรี บริเวณถนนหน้าทางเข้าบ่อขยะของเทศบาลเมืองเพชรบุรี ม.1 ต.นาวุ้ง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เมื่อเวลา 01.00 น.ของวันที่ 8 ก.ค.

จับแล้ว 2 มือปืน วัย 24 ปี กระหน่ำยิงคู่อริเสียชีวิตภายในรถกระบะ หลังกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงกลางเมืองเพชรบุรี

จับแล้ว 2 มือปืน วัย 24 ปี กระหน่ำยิงคู่อริเสียชีวิตภายในรถกระบะ หลังกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงกลางเมืองเพชรบุรี

พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า หลังได้รับรายงาน ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.เพชรบุรี ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายอนุ และ นายทวี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงติดตามไปจับกุมนายอนุได้ที่บ้านพักพร้อมอาวุธปืนขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก และขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ก่อนขยายผลไปจับกุมนายทวีได้ที่บ้านพักอีก 1 คน

จากการสอบสวน นายอนุ รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุหลังจากที่ตนและนายทวีกลับจากเที่ยวและกำลังจะขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ทะเบียน 1กน8438 เพชรบุรี จะกลับบ้าน เมื่อผ่านมาถึงลานจอดรถหน้าร้านอินเดียนแดง ได้พบหญิงสาวที่รู้จักกันจึงจอดรถลงไปทักทาย ทำให้นายสุริโยซึ่งอยู่ในอารมณ์โกรธที่ถูกเจ้าของร้านอินเดียนแดงเชิญให้ออกจากร้าน ไม่พอใจได้เข้ามาหาเรื่อง

นายอนุ ให้การต่อว่า ตนและนายทวีไม่อยากมีปัญหา จึงขับรถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้าน นายสุริโยและเพื่อนรวม 3 คน ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวติดตามตนมาจนถึงที่เกิดเหตุ ก่อนที่นายสุริโยซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังด้านคนขับได้ออกมาชักอาวุธปืนยิงใส่ก่อน ตนจึงใช้อาวุธปืน 2 กระบอกที่พกมากระหน่ำยิงสวนกลับไปจนถูกนายสุริโยเสียชีวิต

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควร โดยไม่มีมีความจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน