อานนท์ ขอครั้งสุดท้าย เย็นพรุ่งนี้รวมตัวปรบมือ-ชู 3 นิ้วหน้าสภาฯ ลุ้นโหวตพิธาเป็นนายกฯ ถ้าถูกหักหลังในสภาฯ การลุกขึ้นของคนทั่วประเทศเกิดขึ้นแน่นอน

เมื่อวันที่ 11 ก.ค.66 ที่สกายวอล์ก หอศิลป์ กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และแกนนำกลุ่มราษฎร นัดรวมตัวเพื่อปราศรัยในเวลา 18.00 น. โดยให้มาพร้อมกระดาษและข้อความถึงกกต. และส.ว. หลังกกต.มีมติให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่ จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัทไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น รวมทั้งมีคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

สำหรับบรรยากาศก่อนการชุมนุม มีมวลชนทยอยเดินทางมารอฟังปราศรัย พร้อมจับจองที่นั่งทั้งด้านบนสกายวอร์ก และบริเวณลานด้านหน้าหอศิลป์ พร้อมทั้งเตรียมป้ายพร้อมเขียนข้อความแสดงจุดยืน ซึ่งระหว่างรอการปราศรัยของนายอานนท์ มีแกนนำประชาชนรวมกลุ่มบรรเลงเพลงสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้มารอฟังการปราศรัย และบริเวณรอบๆ มีเหล่าร้านค้าที่เป็นสัญลักษณ์ของด้อมส้มมาวางจำหน่ายในพื้นที่ด้วย

ต่อมาเวลา 19.50 น. นายอานนท์ ปราศรัยบนสกายวอล์กว่า ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ชัดเจนผลการเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย มาอันดับ 1 ทั้งระบบบัญชีรายชื่อและแบ่งเขต จึงถือเป็นโคตรฉันทามติของประชาชน แต่อีกฝ่ายกลับออกแบบให้ส.ว.มีอำนาจใน 5 ปีแรกในการโหวตนายกฯ ครั้งนี้ถ้าสภาฯไปโหวตให้พล.อ.ประยุทธ์ หรือพล.อ.ประวิตร คนกลุ่มนี้จะอยู่กับเราไปอีก แม้ที่ผ่านมาพยายามขัดขวาง ตั้งแต่การเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล แต่สะท้อนออกมาจากผลการเลือกตั้งที่ประชาชนเลือกมา

นายอานนท์ กล่าวว่า วันนี้และพรุ่งนี้ประชาชนจะมีพลังอีกครั้ง แต่ก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้ กกต.กลับยื่นคำร้องกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีหุ้นสื่อ รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องปมนายพิธาและพรรคก้าวไกล เสนอแก้มาตรา 112 ประเด็นล้มล้างการปกครอง โดยส.ว.จะใช้ประเด็นนี้ปิดประตูในการโหวตนายพิธา เป็นนายกฯ จึงอยากให้ฟังเสียงของประชาชนที่จะไปตะโกนยังรัฐสภาให้คนกลุ่มนี้ได้ยิน แม้อีกฝ่ายจะพยายามไม่ได้ยิน

นายอานนท์ กล่าวว่า ดังนั้นจึงขอแรงพี่น้องเป็นครั้งสุดท้าย พรุ่งนี้จึงขออย่าพึ่งลางาน เพราะต้องลาอีกหลายวัน ใครไม่ทำงานประจำขอให้ไปร่วมกับน้องๆ ได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงช่วงเย็น บริเวณหน้ารัฐสภา ครั้งนี้ไม่ใช่การกดดัน แค่จะไปปรบมือและชู 3 นิ้วหน้าสภาฯ พร้อมอย่าไปหลงกลเจ้าหน้าที่ในการจะมาล้อมจับ และอย่าไปคิดเรื่องแก๊สน้ำตา เพราะเรามีอาวุธลับแน่นอน

“ถ้าพรุ่งนี้เราถูกหักหลังในสภาฯ การลุกขึ้นของคนทั่วประเทศเกิดขึ้นแน่นอน พวกคุณจะดูถูกยังไงก็ได้ แต่เสียงของคนที่ลงมติไปแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เราไม่ยอม เช่นเดียวกับผบ.เหล่าทัพที่จะไม่ไปโหวตนายกฯวันพรุ่งนี้ รอเจอกันได้ เช่นเดียวกับส.ว.ที่งดออกเสียง เรารู้ว่าหมายถึงการไม่เห็นด้วย ดังนั้นเราจะตามด่าไปตลอด”นายอานนท์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน