ตำรวจไซเบอร์ ประชุมวางแนวทาง หลัง สว.รวมตัวฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด ตั้งคณะทำงานร่วม 4 หน่วยงาน แยกคดีตามความผิด ด้านบิ๊กเด่นกำชับ รับคดีตรงไปตรงมา

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่บช.สอท. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผบช.สอท. เปิดเผยกรณี สว.จำนวนหนึ่ง อาทิ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ,นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ,นายสมชาย แสวงการ , นายกำพล เลิศเกียรติดำรงด์ , นายจเด็จ อินทร์สว่าง ,นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร ,นายออน กาจกระโทก และทีมทนายความ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีถูกคุกคาม และได้รับความเสียหายจากพร้อมแถลงยื่นเรื่องฟ้องร้องทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งกับบุคคลที่โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท กระทบต่อธุรกิจของครอบครัว และเครือญาติ จนได้รับความเสียหาย

หลังจากที่วุฒิสภาส่วนใหญ่ไม่โหวตเห็นชอบและงดออกเสียงให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะแคนดิเดตนายกฯ เป็นนายกฯ เมื่อ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา อีกทั้งระบุว่าได้แจ้งความดำเนินคดี พร้อมทั้งประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจสอบสวนสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จนรู้ตัวเจ้าของแอคเคาท์ทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะเพจที่เชิญชวนให้บุคคลอื่นทำการคุกคามสว. ว่า

กรณีดังกล่าวทางพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ได้สั่งการ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และชุดทำงานของตำรวจไซเบอร์ เตรียมความพร้อมหากกรณีที่มีผู้เสียหายประสงค์ที่จะเข้ามาแจ้งความ ซึ่งทางบช.สอท.จะเป็นผู้รับเรื่อง นอกจากนี้ได้มีการตั้งคณะทำงานในรูปแบบคณะกรรมการประกอบไปด้วย 4 หน่วยงาน

คือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ,บช.สอท. ,หน่วยความมั่นคง ของ de และบก.ปอท. ร่วมกันพิจารณาแยกการกระทำผิดว่าเข้าข่ายในรูปแบบใด โดยในกรณี หากพบว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงจะมอบหมายให้บก.ปอท. เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบ หากเป็นในเรื่องความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ทางบช.สอท. จะเป็นผู้รับผิดชอบ

พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการตรวจสอบเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มต่างๆที่นำไปสู่เหตุแห่งการปิดกั้นจะเป็นหน้าที่ของทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นอกจากนี้ยังมีทาง กกต. จะเข้ามาดูว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความผิดที่ทางกกต.รับผิดชอบหรือไม่ อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่กรณีนี้เท่านั้น ในเรื่องของข่าวปลอมหรือเฟคนิวส์ ทางบช.สอท.ก็พร้อมดำเนินการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในขั้นต้น

ซึ่งในวันนี้ได้มีการประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำกำชับให้ดำเนินการโดยเร็วและเป็นไปตามข้อกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน