สธ. ขอ โรงพยาบาลในสังกัด เปิดบริการปกติ หลังจาก ครม. ประกาศ 31 ก.ค.เป็นวันหยุดพิเศษ ลดผลกระทบคนไข้นัดตรวจ-ผ่าตัด พร้อมให้ค่าโอที
จากกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้วันที่ 31 ก.ค.2566 เป็นวันหยุดพิเศษ เพื่อให้เกิดวันหยุดยาว 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.-1 ส.ค. แต่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำให้โรงพยาบาลต้องหยุดและเลื่อนนัดผู้ป่วยที่มีคิวตรวจหรือผ่าตัดออกไป จนประชาชนได้รับผลกระทบ รวมถึงกระทบตารางการทำงานของบุคลากร จนมีการทักท้วงว่าควรประกาศล่วงหน้าเป็นเดือน ไม่ใช่ประกาศวันหยุดกะทันหัน
ล่าสุดวันที่ 26 ก.ค.2566 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.ได้กำชับไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ว่า หากเป็นไปได้ขอให้โรงพยาบาลในสังกัด สธ. เปิดบริการตามปกติ โดยเฉพาะการนัดผ่าตัดผู้ป่วย ต้องไม่ให้เกิดผลกระทบ
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า และให้ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัด สธ. ไปสื่อสารกับทางชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และชมรมโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป ว่า สธ.ขอให้โรงพยาบาลเปิดบริการ แต่ให้พิจารณาตามความเหมาะสมว่า ตรงไหนเปิดได้ ตรงไหนเลื่อนได้ ซึ่งต้องอยู่ที่การบริหารภายในโรงพยาบาลนั้น ๆ โดยให้ประกาศแจ้งบุคลากรและประชาชนให้รับทราบ
“ล่าสุดเห็นมีโรงพยาบาลหลายแห่งประกาศออกมาแล้ว เช่น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ฯลฯ ที่สำคัญเมื่อ ครม.ประกาศวันที่ 31 ก.ค.2566 เป็นวันหยุดราชการ ต้องมีการบริหารเรื่องค่าโอทีให้กับบุคลากรที่ต้องมาทำงานวันหยุด ต้องให้พวกเขาด้วย ต้องบริหารจัดการให้เหมาะสม” นพ.โอภาส กล่าว
ด้าน นพ.ประวีณ ตัณฑประภา ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า เนื่องจากมติ ครม.ออกมา สธ.มีการบริการคนไข้ตามปกติ 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว แต่ช่วงวันที่ 31 ก.ค. ซึ่งจะติดหยุดยาว สธ.กับ โรงพยาบาลเห็นว่าจะมีปัญหากับผู้ป่วย เพราะนัดไปแล้วเลื่อนไม่ทัน และยิ่งเมื่อหยุดยาว พอเปิดราชการตามปกติจะแห่มารับบริการจำนวนมาก การบริการจะไม่เพียงพอ
นพ.ประวีณ กล่าวต่อว่า ดังนั้น คนไข้นัดมาแล้ว อย่างนัดผ่าตัด จึงเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้โรงพยาบาลมีการหารือกันกับรองแพทย์ กับองค์กรแพทย์ทั้งหมดว่าถ้าเปิดได้ก็ควรทำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยทั้งของโรงพยาบาล และทั้งจังหวัด แต่เมื่อเป็นวันหยุด จึงเป็นการทำงานเวลานอกราชการ ก็จะมีการจ่ายค่าตอบแทนนอกเวลา จ่ายค่าโอทีให้ ซึ่งแพทย์ บุคลากรในโรงพยาบาลมหาราชฯไม่ได้มีปัญหาตรงนี้
Advertisement
ผู้สื่อข่าวถามว่า เคสนัดผ่าตัดมีเท่าไร นพ.ประวีณ กล่าวว่า มีจำนวนเยอะอยู่ เราเป็นโรงพยาบาลจังหวัดขนาดใหญ่ เป็นโรงพยาบาลระดับเชี่ยวชาญ ประชาชนจึงมารับบริการจำนวนมากอยู่แล้ว เมื่อมีประกาศเป็นวันหยุด จึงต้องมาพิจารณาว่า อันไหนเลื่อนนัดได้หรือไม่ได้ ถ้าเลื่อนได้ก็ต้องไม่ขยับออกไปไกลมาก กรณีคนไข้รอไม่ได้ เช่น ก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยง ก็จะทำให้เลย ส่วนการผ่าตัดนอกเวลาก็จะเป็นเรื่องฉุกเฉินเป็นหลัก
เมื่อถามว่าเปิดบริการตามเดิม แต่ยกเว้นแผนกจิตเวช และทันตกรรม นพ.ประวีณ กล่าวว่า ใช่ เนื่องจาก 2 แผนกสามารถเลื่อนคนไข้ไม่เร่งด่วนได้ แต่หากฉุกเฉินก็สามารถมาได้เช่นกัน
ถามต่อว่า โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สามารถจ่ายค่าโอที ค่าล่วงเวลางานได้ใช่หรือไม่ นพ.ประวีณ กล่าวว่า ด้วยความเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ค่าใช้จ่ายการบริหารกำลังสูงมาก แต่เราก็ต้องคิดเทียบกับผลประโยชน์ประชาชน ต้องให้ประชาชนได้รับความคุ้มค่าที่สุด จึงต้องบริหารจัดการให้ได้
นพ.ประวีณ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องเตรียมพร้อมรับบริการฉุกเฉินวันหยุดยาวจะพบการบริการมากเป็นพิเศษ โรงพยาบาลเตรียมพร้อม บริหารจัดการตามปกติอยู่แล้ว เพียงแต่หยุดยาวเราก็จะต้องอาศัยกำลังแพทย์ พยาบาลมาช่วยนอกเวลามากขึ้น และทีมบริหารก็จะดูแลสนับสนุนบุคลากรอื่น ๆ ที่มาช่วยวันหยุดยาว
ด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า โรงพยาบาลจิตเวช ตนได้ให้แนวทางในส่วนของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก อาจจะขอให้มีการเปิดบริการเพื่อรองรับผู้ป่วยจิตเวชที่อาจจะไม่ได้รับรู้ข่าวสารว่ามีการประกาศให้วันที่ 31 ก.ค.เป็นวันหยุดราชการ
พญ.อัมพร กล่าวต่อว่า ส่วนโรงพยาบาลจิตเวชขนาดเล็ก เบื้องต้นให้ ผอ.รพ.เป็นผู้พิจารณา เบื้องต้นที่เห็นประกาศอย่างชัดเจนว่ามีการเปิดให้บริการคือ โรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ ส่วนข้อกังวลกรณีมีผู้ป่วยจิตเวชรับนัดยารักษาโรคจิตเวชในวันนั้น ไม่ต้องกังวล สามารถเดินทางไปรับยาได้ตามปกติ เพราะโรงพยาบาลจิตเวชแต่ละแห่งจะมีแพทย์เวร และบุคลากรที่เข้าเวรคอยดูแล และระบบการจ่ายยารักษา โรงพยาบาลไม่ได้จ่ายให้จำนวนเป๊ะ ๆ อยู่แล้ว เราจะจ่ายแบบเผื่อเหลือเผื่อขาดไปด้วย จึงไม่กังวลอะไร
