พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. กำชับตำรวจทั่วประเทศอำนวยความสะดวกจราจร กวดขัน 10 ข้อหาหลัก ช่วงวันหยุดยาว

เมื่อวันที่ 27 ก.ค 66 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. วิทยุสั่งการไปยังข้าราชการตำรวจทั่วประเทศให้ ดูแลประชาชนในช่วงวันหยุดราชการติดต่อกัน วันที่ 28 ก.ค.-2 ส.ค.66 อำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่พี่น้องประชาชน รวมทั้งกำหนดมาตรการการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน เพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลัก

ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุ อาทิ ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ขับขี่ขณะเมาสุรา แซงในที่คับขับ ไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ฯลฯ ในห้วงระหว่างวันที่ 28 ก.ค. ถึง 2 ส.ค. 2566 โดยให้พิจารณาตั้งจุดกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ในบริเวณที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือฝ่าฝืนกฎหมาย

โดยให้พิจารณาจากความเหมาะสมจากสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ และไม่ซ้ำซ้อนกันระหว่างหน่วยงาน รวมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อบังคับใช้กฎหมาย โดยให้ถือปฏิบัติตามหนังสือสั่งการของ ตร.เกี่ยวกับการตั้งด่านฯ

ให้ ทุกหน่วยเข้มงวดกวดขันบังคับใช้กฎหมายกรณีการจำหน่ายสุรา ห้ามจำหน่ายในห้วงเวลาที่กำหนด ห้ามจำหน่ายให้กับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และบุคคลที่มีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ ห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะขับขี่ หรือโดยสารบนรถ พร้อมย้ำแนวทางปฏิบัติ

กรณีเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนที่มีคู่กรณี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกราย หากตรวจพบให้ดำเนินคดีให้ครบทุกข้อหา และตรวจสอบประวัติการต้องโทษเพื่อประกอบการบวก หรือเพิ่มโทษแล้วแต่กรณี

นอกจากนี้ หากพบว่าผู้ขับขี่ที่เมาสุราอายุต่ำกว่า 20 ปี จะต้องขยายผลดำเนินคดีกับผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ และกรณีผู้ขับขี่รถในขณะเมาสุราอายุน้อยกว่า 18 ปี จะต้องมีการขยายผลดำเนินคดีกับบุคคลที่ชักจูงส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือบุคคลที่จำหน่ายสุราให้กับเด็ก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ

เพื่อให้การป้องกันและลดอุบัติเหตุในห้วงหยุดยาวนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนา โดยให้พิจารณาเปิดช่องทางเดินพิเศษในเส้นทางที่มีความจำเป็น เช่น มีเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ ให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตามจุดต่างๆ ดูแลการจราจรและจัดระเบียบการจอดรถโดยเฉพาะในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ

ให้ตำรวจทุกหน่วยสำรวจและปรับปรุงเครื่องหมายและสัญญาณจราจรในพื้นที่ ให้มีไฟส่องสว่างที่สามารถใช้งานได้จริง เร่งรัดการคืนผิวจราจรให้มากที่สุด รวมถึงประชาสัมพันธ์เส้นทางที่มีการก่อสร้าง ซ่อมแซม จุดเตือน หรือมีการจราจรหนาแน่น พร้อมเส้นทางเลี่ยง เพื่อลดการจราจรที่ติดขัด ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างคล่องตัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน