‘ชมพู่’ ร่ำไห้กอดทีละศพ อุ้มร่างลูกไปวัด สลดยกครัว 5 ศพ เผยพฤติกรรมโหดอดีตผัวมือปืน เคยส่งข้อความขู่จะไม่ฆ่าคนเดียว จะเอาไปทั้งหมด
จากเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ เมื่อนายสมชาย แก้วโกมล อายุ 54 ปี วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เบอร์ 44 เกิดอาการคลั่งใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงฆ่ายกครัวของอดีตคนรักรวม 5 ศพ ก่อนปลิดชีพตนเองเพื่อหลบหนีความผิด โดยตำรวจเตรียมเรียกตัวน.ส.ชมพู่ คนใกล้ชิดของผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำแล้วในเบื้องต้น
เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 8 ส.ค.66 เจ้าหน้าที่นำศพทั้ง 4 ศพจากเหตุการณ์ยิงยกครัว ย่านแจ้งวัฒนะ กทม. ออกมาจากสถาบันนิติเวช เพื่อนำขึ้นรถอาสาสมัคร ระหว่างนั้น น.ส.ชมพู่ แม่ของเด็กที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ เข้าไปโอบกอดทีละศพและร่ำไห้ออกมา พร้อมอุ้มศพลูกชายคนเล็กวัย 7 ขวบขึ้นรถด้วยตนเอง โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและหดหู่ใจอย่างยิ่ง
ก่อนที่น.ส.ชมพู่ เปิดใจหลังจากส่งศพทั้ง 4 ศพขึ้นรถอาสาสมัคร โดยน.ส.ชมพู่ระบุว่า ราบข่าวจากคนในตลาดว่าแม่ถูกยิง จากนั้นรีบโทรศัพท์หาป้าและลูก แต่ปรากฏว่าป้าไม่รับสาย ซึ่งเอะใจว่าจะเกิดเหตุไม่ดี เพราะป้าไม่เคยไม่รับสายตนเอง จึงรีบให้คนที่รู้จัก ขึ้นไปดูที่ห้องก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว
เมื่อถามว่าสาเหตุของเหตุการณ์สลดในครั้งนี้คืออะไร น.ส.ชมพู่ กล่าวว่า ตนเชื่อว่านายสมชายต้องการขอกลับไปอยู่ด้วย แต่เนื่องด้วยที่ตนเองและนายสมชายคบหาดูใจมาประมาณ 5-6 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด ก่อนที่สุดท้ายจะตัดสินใจหย่ากัน และฝ่ายชายเป็นคนหย่าตนเองด้วยซ้ำ แต่ทว่าฝ่ายชายยังตามราวี เพื่อหวังขอคืนดี ตนก็ไม่อยากกลับไป ทำให้ถูกข่มขู่มาตลอดว่า ฝ่ายชายจะทำให้ตนเองเจ็บช้ำใจมากที่สุด หากไม่ยอมกลับไปคืนดี ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุกับครอบครัวเช่นนี้
‘ชมพู่’ ร่ำไห้กอดทีละศพ อุ้มร่างลูกไปวัด สลดยกครัว 5 ศพ เผยพฤติกรรมโหดอดีตผัวมือปืน
น.ส.ชมพู่ กล่าวอีกว่า รู้จักนายสมชายดีมาโดยตลอดว่าเป็นคนที่มีพฤติกรรมรุนแรง อารมณ์ร้อน หัวรุนแรง และมีอาวุธปืน แต่ที่ผ่านมาสามารถห้ามปรามไม่ให้นายสมชายก่อเหตุรุนแรง ทุกครั้งตนจะเป็นคนที่นิ่งใส่นายสมชายตลอด เมื่อเขาร้อน ตนต้องเป็นคนเย็น ซึ่งนายสมชายก็จะหยุดและไม่ทำอะไรอีก ยืนยันว่าหากเมื่อคืนนี้ตนอยู่ที่ห้อง ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ เพราะนายสมชายต้องการเพียงให้ตนกลับไปคืนดี ไม่ได้ต้องการทำร้ายตนเอง และเมื่อตนไม่กลับไป เขาจึงต้องการทำให้ตนเองเจ็บปวดที่สุด
น.ส.ชมพู่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ยังเคยส่งข้อความหาตนเองว่า “จะทำให้เจ็บปวด ตายทั้งเป็น ถ้าจะฆ่าใครสักคน จะไม่ฆ่าคนเดียว จะเอาไปทั้งหมด” และยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการคบซ้อน เพราะตนและนายสมชายหย่าขาดกันแล้ว ตนเองมีหลักฐานหมดทุกอย่าง นอกจากนี้ยังเคยทำร้ายร่างกายตนเองอีกด้วย
ส่วนประเด็นที่มีข้อครหาว่าตนเองไปหลอกเอาเงินฝ่ายชายแล้วบอกเลิกหรือไม่ น.ส.ชมพู่ กล่าวว่า หากตนเองจะหลอกเอาเงินจริง ๆ คงไม่ก่อร่างสร้างตัมาด้วยกันขนาดนี้ และคงไม่ให้ชื่อคอนโดที่ซื้อด้วยกันเป็นขื่อนายสมชาย ส่วนที่เมื่อเช้าที่ตนเองกลับไปห้องนั้น เพื่อเข้าไปเอากุญแจรถและกระเป๋าของลูกชายตนเองเท่านั้น ไม่ได้มีการนำทรัพย์สินอื่นใดออกมาแต่อย่างใด
