แม่ร่ำไห้รับศพ ไรเดอร์ ถูกอริเก่ายิงเสียชีวิต ลั่น ไม่อโหสิกรรมให้ ชี้ โหดเหี้ยมเกินไป จี้ ตำรวจเร่งตามจับกุม ด้าน ผกก.สภ.บึงกุ่ม เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน
จากกรณี นายเทพทัต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี อาชีพไรเดอร์ ถูกกลุ่มอริยิงเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายอภิรักษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี และ นายปิยะพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี เหตุเกิดบริเวณเกาะกลาง ถนนประเสริญมนุกิจ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. เมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 20 ส.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 ส.ค.2566 พ.ต.อ.อธิวัฒน์ นุชถาวร ผกก.สน.บึงกุ่ม กล่าวว่า ภายหลังจากประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รอง ผบก.น.4 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.บึงกุ่ม เร่งตรวจอบกล้องวงจรปิด รวมถึงสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานได้จะขอศาลออกหมายจับ คดีนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุ 3-4 คน ตั้งประเด็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว และเรื่องชู้สาว
ขณะที่ นางสนิท (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี แม่และครอบครัวของผู้เสียชีวิต เดินทางมาติดต่อสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อขอรับศพลูกชายกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาภูมิลำเนาใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยจะสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 3 วัน และจะฌาปนกิจศพในวันที่ 23 ส.ค.นี้ โดยก่อนการเดินทางไปรับศพ นางสนิทได้เดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต
โดยบรรยากาศการรับศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า แม่ของนายเทพทัต กล่าวว่า คืนก่อนเกิดเหตุ สังเกตเห็นสีหน้าลูกชายหมองคล้ำดำ และลูกไปย้อมผมสีดำมา รู้สึกใจคอไม่ดี แต่ก็ไม่ได้เตือนอะไร จนกระทั่งลูกชายออกจากบ้านไป ซึ่งส่วนตัวก็ไม่รู้เลยว่าลูกมีปากเสียงกับใคร หรือทะเลาะกับใครหรือไม่ เพราะส่วนมากลูกจะคุยกับเพื่อนมากกว่า มีอะไรไม่ได้เล่าให้แม่ฟัง และนิสัยปกติลูกจะเอาแต่ใจ ต้องได้ดั่งใจ เพราะแม่ตามใจลูกมาตั้งแต่เด็ก
แม่ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากคนร้ายจะมามอบตัว มาขอโทษและขออโหสิกรรมตนเองนั้น ก็จะไม่อโหสิกรรมให้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกชาย ถูกยิงทะลุอย่างนั้น ทำเกินไป ถือเป็นเรื่องที่โหดร้าย และน่ากลัวมาก ขอให้ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้ อย่าให้คนร้ายหนีไป เพราะเป็นพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมมาก
สำหรับคดีนี้นอกจากนายเทพทัตที่เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน ซึ่งพยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คืนเกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์มากกว่า 50 คน มาเคลียร์ปัญหากับอาสากู้ภัยที่จอดอยู่บริเวณใกล้ ๆ สี่แยก
ซึ่งผู้เสียชีวิตได้จอดรอรับงานไรเดอร์อยู่บริเวณใกล้เคียง จึงเข้าไปสังเกตการณ์การเคลียร์ปัญหากัน แต่เมื่อเดินไปถึง หนึ่งในกลุ่มของวัยรุ่นที่มาเคลียร์กับกู้ภัยหันมาเจอผู้เสียชีวิต แล้วเห็นว่าเป็นคู่อริที่มีปัญหากัน กลุ่มวัยรุ่นจึงหันมาไล่ทำร้ายผู้เสียชีวิต ก่อนเกิดการชุลมุนกันขึ้น