หนุ่มเสพกัญชา-ดื่มน้ำท่อม จนหลอน คว้ามีดดาบ ฟันเมียสาว ดับสลด

หนุ่มคลั่ง คว้ามีดดาบ ฟันเมียสาว เปลือยกายเสียชีวิตคาห้องนอน พ่อ เล่าสลด ลูกชายเสพกัญชา-ดื่มน้ำกระท่อมจนนิสัยเปลี่ยน ทะเลาะบ่อยปมหึงหวง

เมื่อเวลา 03.45 น. วันที่ 29 ส.ค.2566 พ.ต.ท.สุชาติ ช่างทำ สารวัตร(สอบสวน) สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุหญิงถูกอาวุธมีดฟันเสียชีวิต ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

หนุ่มคลั่ง คว้ามีดดาบ ฟันเมียสาว เปลือยกายเสียชีวิตคาห้องนอน พ่อ เล่าสลด ลูกชายเสพกัญชา-ดื่มน้ำกระท่อมจนนิสัยเปลี่ยน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น ภายในห้องนอนชั้นที่ 2 พบศพ น.ส.มินทร์ธิรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี สภาพไม่สวมเสื้อผ้า มีผ้าห่มสีเหลืองคลุมตัวไว้ ตามร่างกายมีบาดแผลถูกอาวุธมีดฟันที่ศีรษะ ใบหน้า ลำคอ และแขนทั้งสองข้าง รวม 5 แผล นอนหงายจมกองเลือด ใกล้กันพบอาวุธมีดดาบ ความยาว 2 ฟุต เปื้อนเลือดตกอยู่

หลังเกิดเหตุ ร.ต.ต.วิชัย อัวใจรัก รอง สวป. และ ด.ต.อาทิตย์ ฟองเนตร ผบ.หมู่งาน 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ.191 ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ ทราบชื่อ นายรุ่งโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีอาการมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง จึงนำตัวไปสอบสวนที่ สน.วัดพระยาไกร

จากการสอบถาม นายพรชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี พ่อของนายรุ่งโรจน์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ให้การว่า ลูกชายมีอาชีพไรเดอร์ส่งอาหาร ส่วนผู้ตายทำงานอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน และมีลูกชายวัย 2 ขวบ 1 คน ซึ่งทั้งสองคนเพิ่งมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านตนได้เพียง 2 วัน โดยลูกชายมีพฤติกรรมเสพกัญชาและดื่มน้ำกระท่อม จนมีอาการหลอนทางจิตประสาท และนิสัยเปลี่ยนไป

นายพรชัย กล่าวต่อว่า ขณะเกิดเหตุตนนอนอยู่บนชั้น 3 ได้ยินเสียงลูกชายทะเลาะกับภรรยา จึงรีบลงมาดู พบว่าลูกชายมีท่าทางพยายามจะหนีออกจากบ้านไป โดยพูดบอกว่าได้ฆ่าภรรยาของตัวเองเสียชีวิต ตนจึงเข้าล็อกตัวเอาไว้ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ส่วนสาเหตุที่ลูกชายกับภรรยาทะเลาะกันนั้น คาดว่าเกิดจากความหึงหวง เนื่องจากฝ่ายหญิงทำงานอยู่ร้านอาหาร ลูกชายจึงคิดว่ามีชายหนุ่มมาติดพันภรรยาของตัวเอง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายรุ่งโรจน์ ที่ยังอยู่ในสภาพมึนเมาและรอให้อาการดีขึ้นก่อนจะทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ต่อไป